xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนรวมปี54โต5หมื่นล้าน ได้2กองทุนประหยัดภาษีหนุนปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กองทุนรวมปีกระต่ายหืดจับ ได้ 2 กองทุนประหยัดภาษี "แอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ" หนุนเงินลงทุนทั้งระบบโตกว่า 5 หมื่นล้านหรือขยายตัว 2.48% โดยมียักษ์เขียว "บลจ.กสิกรไทย" รั้งแชมป์เบอร์หนึ่ง ดูดเงินเข้าพอร์ตได้เกือบ 5 หมื่นล้าน ในขณะที่ บลจ.น้องใหม่อย่าง " แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" มาแรง เปิดตัว 7 กองทุน โกยเงินกว่า 6 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา ธุรกิจกองทุนรวมต้องเจอศึกหลายด้าน ทั้งการครบกำหนดของกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ในปีดังกล่าวหลายแสนล้านบาท การดึงเงินฝากจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยผันผวน ทำให้เงินลงทุนใหม่เข้ามาไม่มาก ประกอบกับภาวะอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ทำให้เงินลงทุนส่วนหนึ่งชะลอลงไป แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี ยังได้สองกองทุนประหยัดภาษีอย่างกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ดึงเงินกลับเข้ามาในระบบได้ จนทำให้ที่สุดแล้วธุรกิจกองทุนรวมทั้งระบบ พลิกกลับจากติดลบในเดือนพฤษจิกายนเป็นบวกได้ในที่สุด

ทั้งนี้ จากการรายงานเงินลงทุนทั้งระบบของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) พบว่า ธุรกิจกองทุนรวมทั้งระบบมีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 2,082,754.75 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 50,369.98 ล้านบาท จากเงินลงทุนรวม 2,032,384.77 ล้านบาทในเดือนธันวาคมปี 2553 โดยคิดเป็นอัตราการขยายตัวทั้งสิ้น 2.48%

โดยจากการสำรวจพบว่า บริษัทจัดการส่วนใหญ่ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารลดลง ในขณะที่ผู้นำตลาดเอง ยังคงสามารถดึงเงินเข้ามาในพอร์ตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด ซึ่งในปี 2554 ที่ผ่านมา มีเงินลงทุนในส่วนของกองทุนรวมเพิ่มขึ้นถึง 49,724.20 ล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวมมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 481,892.97 ล้านบาทในปีก่อน มาอยู่ที่ 531,617.17 ล้านบาทในที่ 2554 ทำให้ยังเป็นผู้นำธุรกิจกองทุนรวมต่อไป

ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ถึงแม้จะมีสินทรัพย์รวมเป็นอันดับ 2 แต่ในปีที่ผ่านมา สามารถระดมทุนเข้าพอร์ตสุทธิเพียง 8,275.75 ล้านบาท เท่านั้น ส่งผลให้สินทรัพย์รวมในส่วนของกองทุนรวมขึ้นขึ้นมาเล็กน้อยจาก 474,630.84 ล้านบาทมาเป็น 482,906.59 ล้านบาท

ส่วนอันดับ 3 อย่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมาแรงในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา จากการรับโอนสินทรัพย์ส่วนหนึ่งมาจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ก็สามารถระดมเงินลงทุนได้ค่อนข้างมาก โดยจบปีมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 25,098.77 ล้านบาท ทำให้สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 262,679.38 ล้านบาท จากเงินสินทรัพย์รวม 237,580.61 ล้านบาทในปีก่อนหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของบริษัทจัดการกองทุนน้องใหม่ซึ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด กลับสามารถระดมเงินลงทุนได้เป็นจำนวนมาก โดยจากกองทุนที่เปิดขายไป 7 กองทุน บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สามารถระดมทุนได้ถึงกว่า 6,167.53 ล้านบาท ซึ่งสามารถแซงหน้าบริษัทจัดการขนาดเล็ก อย่าง บลจ.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด บลจ.ฟิลลิป จำกัด บลจ.ซีมิโก้ จำกัด รวมถึงบลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากได้สาขาของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ในการเป็นแขนขาหลักช่วยระดมทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในปี 2555 นี้ ถือว่าเป็นอีกปีที่ธุรกิจกองทุนรวมจะยังมีการแข่งขันสูง ทั้งในแง่ของการรักษามาร์เก็ตแชร์ และการสรรหานวัตกรรมการลงทุนใหม่มาให้บริการนักลงทุน เนื่องจากการลงทุนโดยรวมยังคงมีความผันผวน โดยเฉพาะปัญหาวิกฤตหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรปซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญของการลงทุนในปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของบริษัทจัดการเอง ยังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเพื่อรองรับการแข่งขันพอสมควร โดยผู้นำตลาดอย่าง บลจ.กสิกรไทยเอง ได้แต่งตั้งนายอำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบลจ.กสิกรไทย แทนนายพัชร สมะลาภา ซึ่งโยกไปรับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยแทน

ในขณะที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ ก็ได้สรรหาบุคคลที่มาดูแลด้านพอร์ตกองทุนหุ้นแทน น.ส.โศภนา เจนบวร รองกรรมการผู้จัดการที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยนายธนวัฒน์ พานิชเกษม กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จะเข้ามารับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการและเริ่มงานในวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น