ธนชาตประกันภัย จับมือให้บริการนำรถยนต์ของผู้ประสบภัยส่งเข้าศูนย์ซ่อมหลังโดนน้ำท่วม ขณะเดียวกันเร่งจ่ายสินไหมให้ลูกค้าที่ประสบภัยในจังหวัดที่น้ำลดไปแล้วกว่า 600 คัน
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัทธนชาตประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลายแล้วในหลายจังหวัดของภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา จนถึงขณะนี้มีรถยนต์ของลูกค้าของธนชาตประกันภัยที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งหมด 600 คัน ซึ่งได้จัดส่งรถยกและเจ้าหน้าที่สำรวจภัยพร้อมทีมประเมินความเสียหายเข้าให้บริการลูกค้าทั้งหมดแล้ว
ส่วนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ทางบริษัทฯได้เตรียมรถยกจำนวนกว่า 60 คัน พร้อมที่จะให้บริการเคลื่อนย้ายรถจากพื้นที่เข้าซ่อมกับอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือและศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้รถยนต์ของลูกค้ากลับมามีสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
นายพีรพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทดูแลและอำนวยความสะดวกในการจัดซ่อมให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงทั้งในกรุงเทพและจังหวัดที่น้ำท่วม โดยสำหรับรถยนต์ของลูกค้าที่ได้รับความเสียหายนั้นทางบริษัทฯ ได้พิจารณาความเสียหายเป็น 2 กลุ่ม คือ หากรถลูกค้าได้รับความเสียหายแต่ยังสามารถซ่อมแซมได้ จะทำการยกรถเข้าอู่ในเครือเพื่อจัดซ่อมให้กับลูกค้าทันที และหากเป็นกรณีที่รถลูกค้าจมน้ำเป็นเวลานานจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือค่าซ่อมแซมมากกว่า 70 %ของราคารถ บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าเต็มตามทุนประกันที่ทำไว้กับบริษัทภายใน 3 วัน นับจากวันที่บริษัทตรวจสอบความเสียหาย เพียงลูกค้านำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย พร้อมด้วยสำเนาทะเบียนรถ อย่างละ 2 ชุด เพื่อเป็นเอกสารประกอบการจ่ายสินไหม
"เบื้องต้นมีข้อแนะนำที่สำคัญสำหรับรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมสูง โดยเมื่อปริมาณน้ำเริ่มลดลงในระดับพ้นจากตัวรถยังไม่ควรทำการสตาร์ทรถหรือเปิดสวิทส์กุญแจโดยเด็ดขาด แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือช่างผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสภาพรถยนต์ก่อน ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าของธนชาตประกันภัยที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถแจ้งได้ทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-662-8999 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทพร้อมให้ข้อแนะนำในการดูแลรถยนต์ ตลอด 24 ชั่วโมง" นายพีระพัฒน์ กล่าว
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัทธนชาตประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลายแล้วในหลายจังหวัดของภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา จนถึงขณะนี้มีรถยนต์ของลูกค้าของธนชาตประกันภัยที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งหมด 600 คัน ซึ่งได้จัดส่งรถยกและเจ้าหน้าที่สำรวจภัยพร้อมทีมประเมินความเสียหายเข้าให้บริการลูกค้าทั้งหมดแล้ว
ส่วนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ทางบริษัทฯได้เตรียมรถยกจำนวนกว่า 60 คัน พร้อมที่จะให้บริการเคลื่อนย้ายรถจากพื้นที่เข้าซ่อมกับอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือและศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้รถยนต์ของลูกค้ากลับมามีสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
นายพีรพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทดูแลและอำนวยความสะดวกในการจัดซ่อมให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงทั้งในกรุงเทพและจังหวัดที่น้ำท่วม โดยสำหรับรถยนต์ของลูกค้าที่ได้รับความเสียหายนั้นทางบริษัทฯ ได้พิจารณาความเสียหายเป็น 2 กลุ่ม คือ หากรถลูกค้าได้รับความเสียหายแต่ยังสามารถซ่อมแซมได้ จะทำการยกรถเข้าอู่ในเครือเพื่อจัดซ่อมให้กับลูกค้าทันที และหากเป็นกรณีที่รถลูกค้าจมน้ำเป็นเวลานานจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือค่าซ่อมแซมมากกว่า 70 %ของราคารถ บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าเต็มตามทุนประกันที่ทำไว้กับบริษัทภายใน 3 วัน นับจากวันที่บริษัทตรวจสอบความเสียหาย เพียงลูกค้านำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย พร้อมด้วยสำเนาทะเบียนรถ อย่างละ 2 ชุด เพื่อเป็นเอกสารประกอบการจ่ายสินไหม
"เบื้องต้นมีข้อแนะนำที่สำคัญสำหรับรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมสูง โดยเมื่อปริมาณน้ำเริ่มลดลงในระดับพ้นจากตัวรถยังไม่ควรทำการสตาร์ทรถหรือเปิดสวิทส์กุญแจโดยเด็ดขาด แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือช่างผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสภาพรถยนต์ก่อน ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าของธนชาตประกันภัยที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถแจ้งได้ทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-662-8999 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทพร้อมให้ข้อแนะนำในการดูแลรถยนต์ ตลอด 24 ชั่วโมง" นายพีระพัฒน์ กล่าว
