ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.กสิกรไทยแนะช้อนซื้อLTF ช่วงหุ้นตก คาดระยะยาวหุ้นดีดกลับแถมได้สิทธิ์ทางภาษี มั่นใจมาตรการแก้ปัญหายุโรปจะคลี่คลายในอนาคต แถมกำไรบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุน ชูกอง"สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟ"เพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุนที่ไม่ต้องการความผันผวน หลังผลงานแจ่มปรับตัวลดแค่ 1.79% น้อยกว่าตลาดที่ติดลบถึง 17%
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นหลังจากนี้ยังไม่มีความชัดเจน และยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทเชื่อว่า มาตรการจากทางการยุโรปที่จะมีขึ้นในอนาคต จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกและภาพการลงทุนจะชัดเจนขึ้น และจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมายืนในแดนบวกได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม บลจ. กสิกรไทยยังคงลงทุนในหุ้นด้วยกลยุทธ์ Underweight เพื่อรอดูความชัดเจนเรื่องมาตรการแก้ปัญหาหนี้ภาครัฐของกลุ่มประเทศยูโร และอาจเข้าไปหาโอกาสทำกำไรจากความผันผวนระยะสั้นในบางช่วงเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากตลาดหุ้นได้ ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อกองทุน LTF ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหากปีหน้าปัญหาเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐคลี่คลาย และทิศทางตลาดหุ้นเป็นไปในทางบวกตามที่บริษัทคาดการณ์ กองทุนในกลุ่มนี้ก็น่าจะให้โอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวในระดับที่น่าพึงพอใจ
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะเข้าซื้อกองทุนรวมระยะยาว (LTF)เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลของกองทุน ซึ่งเชื่อว่าในระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยและบริษัทจดทะเบียนยังคงเข้มแข็ง"นายประเสริฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุน LTF แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนจากตลาดหุ้นหรือรับความเสี่ยงจากหุ้นได้ต่ำมาก กองทุนเปิดเค สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟ (KSDLTF) ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะแม้ว่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% เหมือนกองทุน LTF อื่นๆ ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม แต่กองทุน KSDLTF มีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้พอร์ตการลงทุนไม่ผันผวนไปตามตลาดหุ้นมากนัก จึงเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุน LTF ทั่วไปของบริษัท
ทั้งนี้ จะเห็นได้จาก ผลการดำเนินงานที่เอาชนะผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปแล้วที่ -17.17% ในขณะที่กองทุน KSDLTF ปรับตัวลดลงไปเพียง 1.79% เท่านั้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีกองทุน LTF อีก 5 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) กองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาว ปันผล (KGLTF) กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาว (KEQLTF) กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) และกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF)
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นหลังจากนี้ยังไม่มีความชัดเจน และยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทเชื่อว่า มาตรการจากทางการยุโรปที่จะมีขึ้นในอนาคต จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกและภาพการลงทุนจะชัดเจนขึ้น และจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมายืนในแดนบวกได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม บลจ. กสิกรไทยยังคงลงทุนในหุ้นด้วยกลยุทธ์ Underweight เพื่อรอดูความชัดเจนเรื่องมาตรการแก้ปัญหาหนี้ภาครัฐของกลุ่มประเทศยูโร และอาจเข้าไปหาโอกาสทำกำไรจากความผันผวนระยะสั้นในบางช่วงเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากตลาดหุ้นได้ ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อกองทุน LTF ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหากปีหน้าปัญหาเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐคลี่คลาย และทิศทางตลาดหุ้นเป็นไปในทางบวกตามที่บริษัทคาดการณ์ กองทุนในกลุ่มนี้ก็น่าจะให้โอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวในระดับที่น่าพึงพอใจ
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะเข้าซื้อกองทุนรวมระยะยาว (LTF)เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลของกองทุน ซึ่งเชื่อว่าในระยะยาวตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยและบริษัทจดทะเบียนยังคงเข้มแข็ง"นายประเสริฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุน LTF แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนจากตลาดหุ้นหรือรับความเสี่ยงจากหุ้นได้ต่ำมาก กองทุนเปิดเค สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟ (KSDLTF) ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะแม้ว่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% เหมือนกองทุน LTF อื่นๆ ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม แต่กองทุน KSDLTF มีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้พอร์ตการลงทุนไม่ผันผวนไปตามตลาดหุ้นมากนัก จึงเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุน LTF ทั่วไปของบริษัท
ทั้งนี้ จะเห็นได้จาก ผลการดำเนินงานที่เอาชนะผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปแล้วที่ -17.17% ในขณะที่กองทุน KSDLTF ปรับตัวลดลงไปเพียง 1.79% เท่านั้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีกองทุน LTF อีก 5 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) กองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาว ปันผล (KGLTF) กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาว (KEQLTF) กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) และกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF)