บลจ.ยูโอบี เปิดขาย เปิดขายกองตราสารหนี้ระยะสั้น ยูโอบี เอฟไอ พลัส พลัส 6/20 ชู ผลตอบแทน 3.40% ชี้ ดอกเบี้ย ระยะสั้น ถึงระยะกลาง มีแนวโน้มทรงตัว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด รายงานว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ พลัส พลัส 6/20 (UOB FI Plus Plus 6/20 Fund : UOBFIPP 6/20) อายุโครงการ ประมาณ 6 เดือน มูลค่ากองทุน 1,000 ล้านบาท ( Green Shoe 15% ) ประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 3.40%มีมูลค่าขั้นต่ำในการสั่งซื้อ 10,000 บาท เปิดขายครั้งแรกและครั้งเดียวตั้วแต่วันที่ 27 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2554
โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ และตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนทั่วไป
ทั้งนี้ บลจ.ยูโอบี ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากมีแรงขายพันธบัตรในช่วงอายุดังกล่าวจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนขายพันธบัตรเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากกังวลว่านักลงทุนต่างชาติอาจขายพันธบัตรออกมา อย่างไรก็ดี ยอดการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่แล้วลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 439,800 ล้านบาท เป็น 436,384 ล้านบาท แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มทรงตัว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะปานกลางถึงระยะยาวน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวหลังกระทรวงการคลังแถลงว่าปริมาณอุปทานพันธบัตรในไตรมาสที่ 4/2554 นี้ จะมีเพียงประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสที่ 3/2554 ค่อนข้างมาก
ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ตามตลาดหุ้นโลก เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะในสหรัฐฯ หลังจากการประชุมของ Fed ที่ยังคงยืนนโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไป ด้วยการออกพันธบัตรระยะยาวทดแทนพันธบัตรอายุสั้น(Operation Twist) ขณะที่ในสหภาพยุโรปปัญหาขาดสภาพคล่องได้ขยายตัวในวงกว้างขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวนี้จะส่งผลกระทบกับประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจการค้ามีการเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในประเทศไทยน่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่จะทยอยประกาศในช่วงที่เหลือของปี
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด รายงานว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ พลัส พลัส 6/20 (UOB FI Plus Plus 6/20 Fund : UOBFIPP 6/20) อายุโครงการ ประมาณ 6 เดือน มูลค่ากองทุน 1,000 ล้านบาท ( Green Shoe 15% ) ประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 3.40%มีมูลค่าขั้นต่ำในการสั่งซื้อ 10,000 บาท เปิดขายครั้งแรกและครั้งเดียวตั้วแต่วันที่ 27 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2554
โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ และตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนทั่วไป
ทั้งนี้ บลจ.ยูโอบี ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากมีแรงขายพันธบัตรในช่วงอายุดังกล่าวจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนขายพันธบัตรเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากกังวลว่านักลงทุนต่างชาติอาจขายพันธบัตรออกมา อย่างไรก็ดี ยอดการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่แล้วลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 439,800 ล้านบาท เป็น 436,384 ล้านบาท แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มทรงตัว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะปานกลางถึงระยะยาวน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวหลังกระทรวงการคลังแถลงว่าปริมาณอุปทานพันธบัตรในไตรมาสที่ 4/2554 นี้ จะมีเพียงประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสที่ 3/2554 ค่อนข้างมาก
ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ตามตลาดหุ้นโลก เพราะขาดความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะในสหรัฐฯ หลังจากการประชุมของ Fed ที่ยังคงยืนนโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไป ด้วยการออกพันธบัตรระยะยาวทดแทนพันธบัตรอายุสั้น(Operation Twist) ขณะที่ในสหภาพยุโรปปัญหาขาดสภาพคล่องได้ขยายตัวในวงกว้างขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวนี้จะส่งผลกระทบกับประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจการค้ามีการเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในประเทศไทยน่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่จะทยอยประกาศในช่วงที่เหลือของปี