บลจ.ทหารไทย แจงป่าเกาะเบี้ยวส่งเงินเข้าบัญชีหลักประกันอีก 1 รายการ วงเงินล้านเศษ ทำให้ล่าสุด มียอดหนี้สะสมกับกองทุนเพิ่มเป็น 67 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อสิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 บริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด ในฐานะผู้รับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมได้ผิดนัดเพิ่มเติมในการนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันอีก 1 รายการนั่นคือ ยอดที่ป่าเกาะต้องนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันเพื่อชดเชยรายได้จากค่าเช่าแปรผันประจำเดือน พฤษภาคม 2554 เป็นจำนวนเงิน 1,123,327.30 บาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กองทุนมียอดเงินสดที่ได้จากขายทอดตลาดหน่วยลงทุน LUXF เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อนำมาชำระหนี้ผิดนัด สรุป ณ สิ้นสุดวันที่ 15 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระราคาให้ครบถ้วน โดยในส่วนนี้ เป็นยอดเงินสดที่ได้จากการขายทอดตลาดหน่วยลงทุน LUXF จำนวน 16 ล้านหน่วย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อนำมาชำระหนี้ผิดนัด 67,180,000 บาท ในส่วนนี้หักดอกเบี้ยของหนี้ผิดนัดตามยอดหนี้ที่ได้บอกกล่าวบังคับจำนำของเงินต้นจำนวน 117,779,711.02 บาท คำนวณถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 จำนวน 8,112,016.50 บาท และหักค่าใช้จ่ายในการบังคับจำนำและขายทอดตลาด 327,324.40 บาท ทำให้คงเหลือ เงินสดที่ได้จากการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนที่สามารถนำมาลดยอดหนี้ผิดนัด 58,740,659.10 บาท
ดังนั้น ยอดผิดนัดของป่าเกาะทั้งหมดในการนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันสรุป ณ วันที่ 16 กันยายน 2554 จึงประกอบด้วย ยอดผิดนัดสุทธิ ก่อนหน้านี้ สรุป ยอด ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2554
(หลังปรับปรุงยอด ด้วยค่าใช้จ่ายในการบังคับจำนำและขายทอดตลาด) จำนวน 66,205,419.12 บาท บวกกับยอดผิดนัดเพิ่มเติม ณ สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 อีก 1,123,327.30 บาท รวมยอดผิดนัดสุทธิ ณ สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 ทั้งสิ้น 67,328,746.42 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดเงินสดในบัญชีหลักประกันและเงินสดในบัญชีกองทุนสรุป ณ วันที่ 19 กันยายน 2554 นั้น ประกอบด้วย เงินสดในบัญชี "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (หลักประกัน)" 0 บาท เงินสดในบัญชี "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (เงินสดจากการบังคับจำนำ หลังกองทุนใช้สิทธิเบิกถอนเพื่อชำระเงินค่าเช่าคงที่ของ อีเอชวาย ที่ค้างชำระ) จำนวน 41,744,636.68 บาท และเงินสดในบัญชีของกองทุน 58,519,100.91 บาท รวมเป็นยอดเงินสดในบัญชีหลักประกันและเงินสดในบัญชีกองทุนทั้งสิ้น 100,263,737.59 บาท และมีหลักประกันอื่นๆ ซึ่งเป็นหน่วยลงทุน LUXF อีกจำนวน 14 ล้านหน่วย
ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทย รายงานว่า ได้ทำจดหมายติดตามทวงถามให้ป่าเกาะปฎิบัติตามสัญญาตกลงกระทำการ และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทจัดการเห็นว่าเหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อสิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 บริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด ในฐานะผู้รับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมได้ผิดนัดเพิ่มเติมในการนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันอีก 1 รายการนั่นคือ ยอดที่ป่าเกาะต้องนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันเพื่อชดเชยรายได้จากค่าเช่าแปรผันประจำเดือน พฤษภาคม 2554 เป็นจำนวนเงิน 1,123,327.30 บาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กองทุนมียอดเงินสดที่ได้จากขายทอดตลาดหน่วยลงทุน LUXF เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อนำมาชำระหนี้ผิดนัด สรุป ณ สิ้นสุดวันที่ 15 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระราคาให้ครบถ้วน โดยในส่วนนี้ เป็นยอดเงินสดที่ได้จากการขายทอดตลาดหน่วยลงทุน LUXF จำนวน 16 ล้านหน่วย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อนำมาชำระหนี้ผิดนัด 67,180,000 บาท ในส่วนนี้หักดอกเบี้ยของหนี้ผิดนัดตามยอดหนี้ที่ได้บอกกล่าวบังคับจำนำของเงินต้นจำนวน 117,779,711.02 บาท คำนวณถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 จำนวน 8,112,016.50 บาท และหักค่าใช้จ่ายในการบังคับจำนำและขายทอดตลาด 327,324.40 บาท ทำให้คงเหลือ เงินสดที่ได้จากการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนที่สามารถนำมาลดยอดหนี้ผิดนัด 58,740,659.10 บาท
ดังนั้น ยอดผิดนัดของป่าเกาะทั้งหมดในการนำเงินเข้าบัญชีหลักประกันสรุป ณ วันที่ 16 กันยายน 2554 จึงประกอบด้วย ยอดผิดนัดสุทธิ ก่อนหน้านี้ สรุป ยอด ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2554
(หลังปรับปรุงยอด ด้วยค่าใช้จ่ายในการบังคับจำนำและขายทอดตลาด) จำนวน 66,205,419.12 บาท บวกกับยอดผิดนัดเพิ่มเติม ณ สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 อีก 1,123,327.30 บาท รวมยอดผิดนัดสุทธิ ณ สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2554 ทั้งสิ้น 67,328,746.42 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดเงินสดในบัญชีหลักประกันและเงินสดในบัญชีกองทุนสรุป ณ วันที่ 19 กันยายน 2554 นั้น ประกอบด้วย เงินสดในบัญชี "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (หลักประกัน)" 0 บาท เงินสดในบัญชี "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (เงินสดจากการบังคับจำนำ หลังกองทุนใช้สิทธิเบิกถอนเพื่อชำระเงินค่าเช่าคงที่ของ อีเอชวาย ที่ค้างชำระ) จำนวน 41,744,636.68 บาท และเงินสดในบัญชีของกองทุน 58,519,100.91 บาท รวมเป็นยอดเงินสดในบัญชีหลักประกันและเงินสดในบัญชีกองทุนทั้งสิ้น 100,263,737.59 บาท และมีหลักประกันอื่นๆ ซึ่งเป็นหน่วยลงทุน LUXF อีกจำนวน 14 ล้านหน่วย
ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทย รายงานว่า ได้ทำจดหมายติดตามทวงถามให้ป่าเกาะปฎิบัติตามสัญญาตกลงกระทำการ และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทจัดการเห็นว่าเหมาะสมต่อไป