บลจ. ซีมิโก้ คาดราคาทองคำสิ้นปีนี้แตะที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่ออ่อนซ์ หลังปัญหาสหรัฐและยุโรปยังไม่คลี่คลาย เผยสิ้นเดือน ก.ย.นี้เตรียมคลอดกองทุนทองคำ 1 กองทุน หวังเป็นทางเลือกช่วงเศรษฐกิจโลกผันผวน
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนช่วง 3 เดือนที่นี้บริษัทมองว่า การลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีขณะนี้คงหนีไม่พ้นการลงทุนในทองคำที่มีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากปัจจุบันค่าเงินของสหรัฐฯ มีความผันผวน และยังเป็นสกุลหลักของโลกรวมถึงปัญหายุโรปเองยังคงมไม่คลี่คลาย และยังคงลุกลามไปยังหอีกหลาย ๆ ประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงสิ้นเดือนกันยายน นี้ราคาทองคำน่าจะแตะอยู่ที่ประมาณ 1,600 - 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่ออ่อนซ์ และช่วงสิ้นปีน่าจะแตะอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่ออ่อนซ์ เนื่องจากว่าปัญหาของยุโรปเองกำลังลามไปยังประเทศสเปน และอิตาลี ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปต้องเริ่มเข้ามาซื้อพันธบัตรของทั้งสองประเทศเพื่อลดอัตราผลตอบแทนลง ดังนั้นความต้องการทองคำในฐานะที่เป็นทางเลือกของธนาคารชาติต่างๆและนักลงทุนสถาบันจึงมีเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากราคาขึ้นไปสูงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูงมาก
"บริษัทเตรียมแผนที่จะออกกองทุนรวมเอฟไอเอฟทองคำ อีก 1 กองทุน เพราะมองว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ราคาทองคำน่าจะไปแตะอยู่ที่ 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังย่ำแย่ บวกกับยุโรปที่กำลังมีปัญหาและกำลังจะลามมาที่ อิตาลี และสเปน จึงมองเป็นโอกาสที่ดีต่อการลงทุนทองคำในช่วงนี้" นายไววิทย์ กล่าว
ล่าสุด ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน นี้บริษัทมีแผนที่จะไอพีโอกองทุนทองคำ 1 กองทุน มีมูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะเข้าไปลงทุนในทองคำแท่งที่ต่างประเทศ และกองทุนดังกล่าวได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทำให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับทองคำในตลาดโลก
นายไววิทย์ กล่าวต่อไปว่า โดยกองทุนทองคำที่จะเปิดขายนั้นคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี กองทุนดังกล่าวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ขณะที่การลงทุนในหุ้นเองยังคงมีความผันผวนอยู่
"กองทุนมีไซด์ขนาดของกองทุนที่ไม่ใหญ่มาก และกองทุนทองคำจะขายผ่านทางตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก เนื่องจากว่าเราไม่มีแบงก์แม่คอยสนับสนุน และคาดว่านักลงทุนจะให้การตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดขายไอพีโอครั้งนี้"
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนช่วง 3 เดือนที่นี้บริษัทมองว่า การลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีขณะนี้คงหนีไม่พ้นการลงทุนในทองคำที่มีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากปัจจุบันค่าเงินของสหรัฐฯ มีความผันผวน และยังเป็นสกุลหลักของโลกรวมถึงปัญหายุโรปเองยังคงมไม่คลี่คลาย และยังคงลุกลามไปยังหอีกหลาย ๆ ประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงสิ้นเดือนกันยายน นี้ราคาทองคำน่าจะแตะอยู่ที่ประมาณ 1,600 - 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่ออ่อนซ์ และช่วงสิ้นปีน่าจะแตะอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่ออ่อนซ์ เนื่องจากว่าปัญหาของยุโรปเองกำลังลามไปยังประเทศสเปน และอิตาลี ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปต้องเริ่มเข้ามาซื้อพันธบัตรของทั้งสองประเทศเพื่อลดอัตราผลตอบแทนลง ดังนั้นความต้องการทองคำในฐานะที่เป็นทางเลือกของธนาคารชาติต่างๆและนักลงทุนสถาบันจึงมีเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากราคาขึ้นไปสูงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูงมาก
"บริษัทเตรียมแผนที่จะออกกองทุนรวมเอฟไอเอฟทองคำ อีก 1 กองทุน เพราะมองว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ราคาทองคำน่าจะไปแตะอยู่ที่ 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังย่ำแย่ บวกกับยุโรปที่กำลังมีปัญหาและกำลังจะลามมาที่ อิตาลี และสเปน จึงมองเป็นโอกาสที่ดีต่อการลงทุนทองคำในช่วงนี้" นายไววิทย์ กล่าว
ล่าสุด ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน นี้บริษัทมีแผนที่จะไอพีโอกองทุนทองคำ 1 กองทุน มีมูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะเข้าไปลงทุนในทองคำแท่งที่ต่างประเทศ และกองทุนดังกล่าวได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทำให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับทองคำในตลาดโลก
นายไววิทย์ กล่าวต่อไปว่า โดยกองทุนทองคำที่จะเปิดขายนั้นคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี กองทุนดังกล่าวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ขณะที่การลงทุนในหุ้นเองยังคงมีความผันผวนอยู่
"กองทุนมีไซด์ขนาดของกองทุนที่ไม่ใหญ่มาก และกองทุนทองคำจะขายผ่านทางตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก เนื่องจากว่าเราไม่มีแบงก์แม่คอยสนับสนุน และคาดว่านักลงทุนจะให้การตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดขายไอพีโอครั้งนี้"
