นักลงทุนคลายความกังวลวิกฤตสหรัฐฯ หันกลับเข้าลงทุนดันดัชนีหุ้นไทยรีบาวนด์ 17 จุด แต่ต่างชาติขายสุทธิ 1,791 ล้านบาท โบรกฯแนะติดตามข่าวสารต่างประเทศ ประเมินระยะสั้นแรงเก็งกำไรมีสูง กดดันดัชนีเคลื่อนไหวในวงจำกัด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (10 ส.ค.) เริ่มรีบาวนด์กลับหลังจากปรับตัวลดลงจากจากความกังวลวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป โดยปิดที่ระดับ 1,060.21 จุด เพิ่มขึ้น 17.67 จุด หรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 35,299.40 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,066.83 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,047.44 จุด ซึ่งเป็นการแกว่งตัวในแดนบวกแนวเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ และภูมิภาค ตอบรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 2 ปี ช่วยคลายความกังวล
ทั้งนี้ พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,791.36 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่ขายสุทธิ 1,112.91 ล้านบาท และ 358.80 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 477 หลักทรัพย์ ลดลง 110 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 107 หลักทรัพย์ ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,446.81 ล้านบาท ปิดที่ 317.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,789.18 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,740.76 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,685.31 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,663.73 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโส บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้อยู่ในแดนบวก ท่ามกลางการเข้าลงทุน จากก่อนหน้าที่ปรับลงแรงซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิค ประกอบกับการตอบรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 2 ปี ช่วยคลายความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวคงต้องติดตาม เพราะยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน
ทำให้ในช่วงนี้คงปัจจัยต่างประเทศเป็นปัจจัยที่กำหนดการเคลื่อนไหวมากกว่าปัจจัยในประเทศ ที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ สนับสนุนการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ การลงทุนยังมีลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นรายตัวหุ้น และผลการดำเนินในไตรมาส 2/54 ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (11 ส.ค.) คาดว่า ดัชนีคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,047 จุดและ 1,033 จุด ส่วนแนวต้าน 1,070 และ 1,078 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (10 ส.ค.) เริ่มรีบาวนด์กลับหลังจากปรับตัวลดลงจากจากความกังวลวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป โดยปิดที่ระดับ 1,060.21 จุด เพิ่มขึ้น 17.67 จุด หรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 35,299.40 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,066.83 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,047.44 จุด ซึ่งเป็นการแกว่งตัวในแดนบวกแนวเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ และภูมิภาค ตอบรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 2 ปี ช่วยคลายความกังวล
ทั้งนี้ พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,791.36 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่ขายสุทธิ 1,112.91 ล้านบาท และ 358.80 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 477 หลักทรัพย์ ลดลง 110 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 107 หลักทรัพย์ ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,446.81 ล้านบาท ปิดที่ 317.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,789.18 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,740.76 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,685.31 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,663.73 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโส บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้อยู่ในแดนบวก ท่ามกลางการเข้าลงทุน จากก่อนหน้าที่ปรับลงแรงซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิค ประกอบกับการตอบรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 2 ปี ช่วยคลายความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวคงต้องติดตาม เพราะยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน
ทำให้ในช่วงนี้คงปัจจัยต่างประเทศเป็นปัจจัยที่กำหนดการเคลื่อนไหวมากกว่าปัจจัยในประเทศ ที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ สนับสนุนการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ การลงทุนยังมีลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นรายตัวหุ้น และผลการดำเนินในไตรมาส 2/54 ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (11 ส.ค.) คาดว่า ดัชนีคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,047 จุดและ 1,033 จุด ส่วนแนวต้าน 1,070 และ 1,078 จุด