ASTVผู้จัดการรายวัน-มิตรแท้มั่นใจทั้งปีกวาดเบี้ย 2,012 ล้านบาทตามเป้า หลังครึ่งแรกกวาดไปแล้วเกือบพันล้าน ระบุยอดซื้อขายเปลี่ยนมือรถยนต์ครึ่งปีหลังช่วยหนุน สุดปลื้มยอด 3 วันสัปดาห์ประกันภัยกวาดเบี้ยกว่า 3.7 ล้านบาท รวมเป็นทุนประกันกว่า 180 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมขายที่ดินหวังเพิ่มทุนรองรับการขยายตัวของบริษัทมากขึ้นในอนาคต
นายอรัญ ศรีว่องไทย กรรมการบริหารและรองกรรมการอาวุโส บริษัทมิตรแท้ประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในส่วนของกรมธรรม์รถยนต์ ซึ่งเบี้ยรับรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ มีเบี้ยรับรวม 2,012 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังมักจะมีเบี้ยรับรวมเข้ามามากกว่าในช่วงครึ่งปีแรกเสมอ
"ช่วงที่ผ่านมาพอร์ตเราเป็นรถยนต์กว่า 95% แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ เพราะส่วนใหญ่เราเป็นรายย่อยไม่ใช่รถใหม่ที่จะต้องไปยุ่งกับไฟแนนซ์ โดยในช่วงครึ่งปีหลังเป็นปกติที่เบี้ยจะเข้ามาเยอะ ซึ่งรถยนต์มักจะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันในช่วงนี้เสมอก็น่าจะส่งผลดีให้เราในช่วงที่เหลือของปี"นายอรัญกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จจากการร่วมงานสัปดาห์ประกันภัย 2554 โดยมิตรแท้ฯ ออกกรมธรรม์ไปกว่า 900 กรมธรรม์ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 3,700,000 บาท และทุนประกันภัยรวมทั้ง Motor และ Non Motor กว่า 180,000,000 บาท ภายในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งถือว่ามากกว่าเป้าหมายคาดไว้ นอกจากนี้ ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวดบู้ธได้สำเร็จอีกด้วย
ขณะที่ มิตรแท้จริงใจ คลับ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตลอด 3 วันที่ผ่านมามีลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกอย่างคับคั่งพร้อมรับบัตรสมาชิกได้ทันทีภายในงานฯ ซึ่งถือเป็นการให้บริการพิเศษสำหรับสมาชิกหลังจากนี้
นายอรัญ กล่าวอีกว่า การประกาศใช้การกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง( RBC)ของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท เนื่องจากมีกองทุนสำรองเพียงพอ โดยถึงแม้สัดส่วนการรับประกันของบริษัทจะเป็นรถยนต์จำนวนมากที่สุด แต่บริษัทมีการควบคุมและการตั้งสำรองเอาไว้นานแล้ว โดยบริษัทมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ค่อยดูแลในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของบริษัทในอนาคตจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มทุนเพื่อนรองรับเรื่องดังกล่าว โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเพิ่มทุนไปแล้วจำนวน 50 ล้านบาท และหลังจากนี้คงจะมีการเพิ่มทุนเข้ามาอีก ซึ่งทางบริษัทได้เตรียมที่จะทำการขายที่ดินเพื่อนำมาเพิ่มทุนในอนาคต
"เรื่องRBCไม่มีผลกระทบกับเราเพราะเรามีนักคณิตศาสตร์ประกันค่อยดูอยู่ ถึงแม้จะมีการรับประกันภัยรถยนต์ และถึงแม้ในปีนี้จะมีการปรับประกันรถยนต์เพิ่มก็ไม่ส่งผลกระทบ แต่ในอนาคตเราได้เตรียมขายที่ดินของบริษัทเพื่อนำมาเพิ่มทุนแล้ว เพราะที่ผ่านมาที่ดินยังคิดรวมเป็นทรัพย์สินรูปแบบในหนึ่งในการสำรองแต่หลังจากนี้รู้สึกว่าจะไม่สามารถนำมาคำนวณได้"นายอรัญกล่าว
นายอรัญ ศรีว่องไทย กรรมการบริหารและรองกรรมการอาวุโส บริษัทมิตรแท้ประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในส่วนของกรมธรรม์รถยนต์ ซึ่งเบี้ยรับรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ มีเบี้ยรับรวม 2,012 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังมักจะมีเบี้ยรับรวมเข้ามามากกว่าในช่วงครึ่งปีแรกเสมอ
"ช่วงที่ผ่านมาพอร์ตเราเป็นรถยนต์กว่า 95% แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ เพราะส่วนใหญ่เราเป็นรายย่อยไม่ใช่รถใหม่ที่จะต้องไปยุ่งกับไฟแนนซ์ โดยในช่วงครึ่งปีหลังเป็นปกติที่เบี้ยจะเข้ามาเยอะ ซึ่งรถยนต์มักจะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันในช่วงนี้เสมอก็น่าจะส่งผลดีให้เราในช่วงที่เหลือของปี"นายอรัญกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จจากการร่วมงานสัปดาห์ประกันภัย 2554 โดยมิตรแท้ฯ ออกกรมธรรม์ไปกว่า 900 กรมธรรม์ คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 3,700,000 บาท และทุนประกันภัยรวมทั้ง Motor และ Non Motor กว่า 180,000,000 บาท ภายในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งถือว่ามากกว่าเป้าหมายคาดไว้ นอกจากนี้ ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวดบู้ธได้สำเร็จอีกด้วย
ขณะที่ มิตรแท้จริงใจ คลับ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตลอด 3 วันที่ผ่านมามีลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกอย่างคับคั่งพร้อมรับบัตรสมาชิกได้ทันทีภายในงานฯ ซึ่งถือเป็นการให้บริการพิเศษสำหรับสมาชิกหลังจากนี้
นายอรัญ กล่าวอีกว่า การประกาศใช้การกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง( RBC)ของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท เนื่องจากมีกองทุนสำรองเพียงพอ โดยถึงแม้สัดส่วนการรับประกันของบริษัทจะเป็นรถยนต์จำนวนมากที่สุด แต่บริษัทมีการควบคุมและการตั้งสำรองเอาไว้นานแล้ว โดยบริษัทมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ค่อยดูแลในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของบริษัทในอนาคตจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มทุนเพื่อนรองรับเรื่องดังกล่าว โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเพิ่มทุนไปแล้วจำนวน 50 ล้านบาท และหลังจากนี้คงจะมีการเพิ่มทุนเข้ามาอีก ซึ่งทางบริษัทได้เตรียมที่จะทำการขายที่ดินเพื่อนำมาเพิ่มทุนในอนาคต
"เรื่องRBCไม่มีผลกระทบกับเราเพราะเรามีนักคณิตศาสตร์ประกันค่อยดูอยู่ ถึงแม้จะมีการรับประกันภัยรถยนต์ และถึงแม้ในปีนี้จะมีการปรับประกันรถยนต์เพิ่มก็ไม่ส่งผลกระทบ แต่ในอนาคตเราได้เตรียมขายที่ดินของบริษัทเพื่อนำมาเพิ่มทุนแล้ว เพราะที่ผ่านมาที่ดินยังคิดรวมเป็นทรัพย์สินรูปแบบในหนึ่งในการสำรองแต่หลังจากนี้รู้สึกว่าจะไม่สามารถนำมาคำนวณได้"นายอรัญกล่าว