ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.เอ็มเอฟซี จับจังหวะค่าเงินเอเชีย 2 สกุล "หยวน-รูปี" แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขายกองทุน "เอ็มเอฟซี คุ้มครองเงินต้น เอฟเอ็กซ์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น" ลงทุนตราสารหนี้ไทย พร้อมคุ้มครองเงินต้น 100% พร้อมรับผลตอบแทนพิเศษ 6% ต่อปี หากเงินหยวนและรูปีแข็งค่า เปิดขายถึง 6 กันยายนนี้
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเปิดจะเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี คุ้มครองเงินต้น เอฟเอ็กซ์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น หรือกองทุนเปิด MP-FX ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 กันยายนนี้ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 11 เดือน โดยลงทุนในพันธบัตรไทยในสัดส่วนประมาณร้อยละ 95 ถึง 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเพื่อคุ้มครองเงินต้นเต็มจำนวน และที่เหลือประมาณร้อยละ 2 ถึง 5 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสัญญาออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของตะกร้าอัตราแลกเปลี่ยน 2 สกุลเงินคือ ค่าเงินหยวนจีนต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าเงินรูปีอินเดียต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยตัวอย่าง เช่นหากค่าเงินหยวนและรูปีแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนถึงร้อยละ 6 ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น แต่หากค่าเงินหยวนและรูปีอ่อนค่าลง จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนร้อยละ 0.50 ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น
ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนและอินเดียว่า เศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้จะชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่ก็ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดประเทศหนึ่งโดยมีการเติบโตของ GDP (yoy) ในไตรมาสที่ 1 เท่ากับร้อยละ 9.7 และไตรมาสที่ 2 เท่ากับร้อยละ 9.5 แม้ว่าจีนจะดำเนินมาตรการเศรษฐกิจที่เข้มงวด แต่เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมปีนี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับที่ดี
โดยคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนจีนต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USDNY) โดยสถาบันการเงินในต่างประเทศยังให้แนวโน้มค่าเงินหยวนแข็งค่า
สำหรับอินเดียเศรษฐกิจยังคงขยายตัวร้อยละ 8.1 ในปีนี้ โดยได้รับแรงผลักดันจากการลงทุน ค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น และอุปสงค์จากผู้บริโภค ซึ่งเศรษฐกิจที่เติบโตของอินเดียเป็นปัจจัยบวกทำให้ค่าเงินรูปีอินเดียต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
"กองทุนเปิด MP-FX จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนระยะปานกลางและมั่นคง จากการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งคุ้มครองเงินต้นเต็มจำนวน และมีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก กองทุนยังปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน นอกจากนี้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย"นางสาวประภากล่าว
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเปิดจะเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี คุ้มครองเงินต้น เอฟเอ็กซ์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น หรือกองทุนเปิด MP-FX ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 กันยายนนี้ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 11 เดือน โดยลงทุนในพันธบัตรไทยในสัดส่วนประมาณร้อยละ 95 ถึง 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเพื่อคุ้มครองเงินต้นเต็มจำนวน และที่เหลือประมาณร้อยละ 2 ถึง 5 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสัญญาออปชั่นที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของตะกร้าอัตราแลกเปลี่ยน 2 สกุลเงินคือ ค่าเงินหยวนจีนต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าเงินรูปีอินเดียต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยตัวอย่าง เช่นหากค่าเงินหยวนและรูปีแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนถึงร้อยละ 6 ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น แต่หากค่าเงินหยวนและรูปีอ่อนค่าลง จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนร้อยละ 0.50 ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้น
ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนและอินเดียว่า เศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้จะชะลอตัวลงจากปีก่อน แต่ก็ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดประเทศหนึ่งโดยมีการเติบโตของ GDP (yoy) ในไตรมาสที่ 1 เท่ากับร้อยละ 9.7 และไตรมาสที่ 2 เท่ากับร้อยละ 9.5 แม้ว่าจีนจะดำเนินมาตรการเศรษฐกิจที่เข้มงวด แต่เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมปีนี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับที่ดี
โดยคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนจีนต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USDNY) โดยสถาบันการเงินในต่างประเทศยังให้แนวโน้มค่าเงินหยวนแข็งค่า
สำหรับอินเดียเศรษฐกิจยังคงขยายตัวร้อยละ 8.1 ในปีนี้ โดยได้รับแรงผลักดันจากการลงทุน ค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น และอุปสงค์จากผู้บริโภค ซึ่งเศรษฐกิจที่เติบโตของอินเดียเป็นปัจจัยบวกทำให้ค่าเงินรูปีอินเดียต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
"กองทุนเปิด MP-FX จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนระยะปานกลางและมั่นคง จากการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งคุ้มครองเงินต้นเต็มจำนวน และมีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก กองทุนยังปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน นอกจากนี้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย"นางสาวประภากล่าว
