ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส แนะนักลงทุนเก็บกองทุนอสังหาฯCPN รีเทล โกรท และ กองทุนอสังหาฯไทคอน เข้าพอร์ต หลังผลการดำเนินงานของกองทุนโดดเด่นต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจจ่ายปันผลงามทุกไตรมาส
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) มีรายได้จากการลงทุนสุทธิงวดไตรมาสที่2 ปี2554 จำนวน 452.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น5.6% yoy เกิดจากรายได้ค่าเช่าและบริการรวม 579.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% yoy มาจากภาพรวมธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง (พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า) มีอัตราการเข้าพักเพิ่มเป็น 98% จาก 97% ในไตรมาสที่2 ปี2553
ขณะที่อัตราการเช่าอาคารสำนักงาน 2 แห่ง (Tower A&Bปิ่นเกล้า) อยู่ระดับสูง 96% นอกจากนี้สามารถปรับเพิ่มขึ้นค่าเช่าของศูนย์การค้าเฉลี่ย 4% yoyด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนระดับ 133.32 ล้านบาท ทั้งนี้งวดไตรมาสที่2 ปี2554 มีการบันทึกรายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการลงทุนอันเป็นผลจากการประเมินสินทรัพย์และเงินลงทุนรวม 15.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 10.34 ล้านบาทในงวด 2Q53 หากหักรายการดังกล่าวกองทุน CPNRF มีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% yoy ด้านโครงสร้างทางการเงินสิ้นงวดไตรมาสที่2 ปี2554 มีหนี้สินลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 480 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.9%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิมไว้ เนื่องจากรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 1H54 ระดับ 895 ล้านบาท อยู่ในความคาดหมาย คิดเป็นสัดส่วน 49% ของประมาณการทั้งปี โดยแนวโน้ม 2H54 คาดรักษาระดับทรงตัวได้ดี จากอัตราการเช่าเฉลี่ยของทั้ง 3 โครงการ (พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า) สูงต่อเนื่อง 95% อีกทั้งคาดอัตราค่าเช่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้เฉลี่ย 4-5% ตามภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น รวมถึงจากผู้เช่าที่กำลังหมดสัญญาและต่อสัญญาใหม่ โดยเบื้องต้นประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 2H54 อย่างน้อย 450 ล้านบาท/ไตรมาส และผลักดันให้ทั้งปี 2554 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 1.83 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% yoy
อย่างไรก็ตามแม้ราคาปัจจุบันของ CPNRF สูงกว่า NAV สิ้นเดือน มิ.ย. 2554 ระดับ 10.2886 และคาดการณ์NAV สิ้นปี 2554 แต่ด้วยผลตอบแทนเงินปันผลสูงสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยงวด 2Q54 ประกาศจ่ายเงินปันหน่วยละ 0.2569 บาท/หน่วย หรือ คิดเป็น Annualized Div Yield เฉลี่ยเกือบ 8% ต่อปี กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 ส.ค. 2554 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 13 ก.ย. 2554นอกจากนี้แผนการลงทุนเพิ่มเติมต่อเนื่อง โดยกองทุนมีแผนซื้อศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่จากCPN ผ่านการเพิ่มทุน และกู้ยืม(Leverage) ในอนาคต โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายใน1H55 ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของผลประกอบการและเงินปันผลมากขึ้นอีก จึงแนะนำซื้อลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนด้านเงินปันผลเป็นหลัก
ฝ่ายวิจัยบล.เอเชียพลัส ระบุต่อว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่2 ปี2554 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) มีรายได้จากการลงทุนสุทธิตามคาด 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% yoy เป็นเพราะกองทุนมีการเพิ่มทุนซื้อโรงงานใหม่ 35 โรง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553 ทำให้พื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 22% เป็น 4.83 แสนตารางเมตร ขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยงวดไตรมาสที่2 ปี2554 เพิ่มเป็น 95% จาก87.3% ใน 2Q53 จึงส่งผลให้รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 31.4% yoy เท่ากับ 233.62 ล้านบาท โดยแม้ค่าใช้จ่ายของกองทุนเพิ่มขึ้น 25.7% yoy ตามการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ แต่ด้วยฐานค่าใช้จ่ายที่ต่ำ 47.5 ล้านบาท ทำให้งวดไตรมาสที่2 ปี2554ยังมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเติบโตสูงดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้หากรวมรายการพิเศษกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์และเป็นรายการทางบัญชีไม่เกี่ยวข้องกับกระแสเงินสดอีก 62.7 ล้านบาท ภาพรวมมีกำไรสุทธิ 250.73 ล้านบาท เติบโตสูง 75.6% yoy หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหน่วย (EPU) ระดับ0.27 บาท เพิ่มขึ้น 44% yoy น้อยกว่าการเติบโตของกำไร เป็นเพราะจำนวนหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนเป็นหลัก
สำหรับทิศทางการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3 ปี2554 คาดยังเติบโตต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการเมืองมีเสถียรภาพ ซึ่งจะผลักดันให้กลุ่มผู้เช่ามีการขยายการลงทุนมากขึ้น และหนุนให้อัตราการเช่าเฉลี่ยยืนเหนือ 95% พร้อมค่าเช่ามีโอกาสปรับตัวได้มากขึ้น ตามภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่แนวโน้มไตรมาสที่4ปี 2554 ทาง TFUND มีแผนเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1.6 พันล้านบาท หรือ ไม่เกิน 160 ล้านหน่วย (ราคาเพิ่มทุนคาดไม่ต่ำกว่า 10 บาท/หน่วย) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม(RO) และ บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) กลางเดือน พ.ย. 2554 เพื่อใช้ซื้อโรงงานใหม่เพิ่มอีก 26 โรงคิดเป็นพื้นที่ 71,050 ตารางเมตร (ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2554 มีอัตราการเช่าเต็ม 100% และค่าเช่าเฉลี่ย 173 บาท/ตร.ม./เดือน) ซึ่งถือเป็นปัจจัยเพิ่มเติมในการผลักดันการดำเนินงาน ฝ่ายวิจัยคงประมาณการเดิมทั้งปี 2554 คาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% yoyโดยประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่แต่อย่างใด
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) มีรายได้จากการลงทุนสุทธิงวดไตรมาสที่2 ปี2554 จำนวน 452.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น5.6% yoy เกิดจากรายได้ค่าเช่าและบริการรวม 579.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% yoy มาจากภาพรวมธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง (พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า) มีอัตราการเข้าพักเพิ่มเป็น 98% จาก 97% ในไตรมาสที่2 ปี2553
ขณะที่อัตราการเช่าอาคารสำนักงาน 2 แห่ง (Tower A&Bปิ่นเกล้า) อยู่ระดับสูง 96% นอกจากนี้สามารถปรับเพิ่มขึ้นค่าเช่าของศูนย์การค้าเฉลี่ย 4% yoyด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนระดับ 133.32 ล้านบาท ทั้งนี้งวดไตรมาสที่2 ปี2554 มีการบันทึกรายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการลงทุนอันเป็นผลจากการประเมินสินทรัพย์และเงินลงทุนรวม 15.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 10.34 ล้านบาทในงวด 2Q53 หากหักรายการดังกล่าวกองทุน CPNRF มีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% yoy ด้านโครงสร้างทางการเงินสิ้นงวดไตรมาสที่2 ปี2554 มีหนี้สินลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 480 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.9%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิมไว้ เนื่องจากรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 1H54 ระดับ 895 ล้านบาท อยู่ในความคาดหมาย คิดเป็นสัดส่วน 49% ของประมาณการทั้งปี โดยแนวโน้ม 2H54 คาดรักษาระดับทรงตัวได้ดี จากอัตราการเช่าเฉลี่ยของทั้ง 3 โครงการ (พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า) สูงต่อเนื่อง 95% อีกทั้งคาดอัตราค่าเช่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้เฉลี่ย 4-5% ตามภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น รวมถึงจากผู้เช่าที่กำลังหมดสัญญาและต่อสัญญาใหม่ โดยเบื้องต้นประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 2H54 อย่างน้อย 450 ล้านบาท/ไตรมาส และผลักดันให้ทั้งปี 2554 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 1.83 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% yoy
อย่างไรก็ตามแม้ราคาปัจจุบันของ CPNRF สูงกว่า NAV สิ้นเดือน มิ.ย. 2554 ระดับ 10.2886 และคาดการณ์NAV สิ้นปี 2554 แต่ด้วยผลตอบแทนเงินปันผลสูงสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยงวด 2Q54 ประกาศจ่ายเงินปันหน่วยละ 0.2569 บาท/หน่วย หรือ คิดเป็น Annualized Div Yield เฉลี่ยเกือบ 8% ต่อปี กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 ส.ค. 2554 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 13 ก.ย. 2554นอกจากนี้แผนการลงทุนเพิ่มเติมต่อเนื่อง โดยกองทุนมีแผนซื้อศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่จากCPN ผ่านการเพิ่มทุน และกู้ยืม(Leverage) ในอนาคต โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายใน1H55 ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของผลประกอบการและเงินปันผลมากขึ้นอีก จึงแนะนำซื้อลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนด้านเงินปันผลเป็นหลัก
ฝ่ายวิจัยบล.เอเชียพลัส ระบุต่อว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่2 ปี2554 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) มีรายได้จากการลงทุนสุทธิตามคาด 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% yoy เป็นเพราะกองทุนมีการเพิ่มทุนซื้อโรงงานใหม่ 35 โรง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553 ทำให้พื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 22% เป็น 4.83 แสนตารางเมตร ขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยงวดไตรมาสที่2 ปี2554 เพิ่มเป็น 95% จาก87.3% ใน 2Q53 จึงส่งผลให้รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 31.4% yoy เท่ากับ 233.62 ล้านบาท โดยแม้ค่าใช้จ่ายของกองทุนเพิ่มขึ้น 25.7% yoy ตามการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ แต่ด้วยฐานค่าใช้จ่ายที่ต่ำ 47.5 ล้านบาท ทำให้งวดไตรมาสที่2 ปี2554ยังมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเติบโตสูงดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้หากรวมรายการพิเศษกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์และเป็นรายการทางบัญชีไม่เกี่ยวข้องกับกระแสเงินสดอีก 62.7 ล้านบาท ภาพรวมมีกำไรสุทธิ 250.73 ล้านบาท เติบโตสูง 75.6% yoy หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหน่วย (EPU) ระดับ0.27 บาท เพิ่มขึ้น 44% yoy น้อยกว่าการเติบโตของกำไร เป็นเพราะจำนวนหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนเป็นหลัก
สำหรับทิศทางการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3 ปี2554 คาดยังเติบโตต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการเมืองมีเสถียรภาพ ซึ่งจะผลักดันให้กลุ่มผู้เช่ามีการขยายการลงทุนมากขึ้น และหนุนให้อัตราการเช่าเฉลี่ยยืนเหนือ 95% พร้อมค่าเช่ามีโอกาสปรับตัวได้มากขึ้น ตามภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่แนวโน้มไตรมาสที่4ปี 2554 ทาง TFUND มีแผนเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1.6 พันล้านบาท หรือ ไม่เกิน 160 ล้านหน่วย (ราคาเพิ่มทุนคาดไม่ต่ำกว่า 10 บาท/หน่วย) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม(RO) และ บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) กลางเดือน พ.ย. 2554 เพื่อใช้ซื้อโรงงานใหม่เพิ่มอีก 26 โรงคิดเป็นพื้นที่ 71,050 ตารางเมตร (ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2554 มีอัตราการเช่าเต็ม 100% และค่าเช่าเฉลี่ย 173 บาท/ตร.ม./เดือน) ซึ่งถือเป็นปัจจัยเพิ่มเติมในการผลักดันการดำเนินงาน ฝ่ายวิจัยคงประมาณการเดิมทั้งปี 2554 คาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% yoyโดยประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่แต่อย่างใด