บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานกองทุนทองคำ พบว่า ล่าสุด ณ วันที่ สิงหาคม 2554 กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 18.19% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 26.16% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 36.06% ในขณะที่ดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 19.81% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 30.33% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 46.24% ด้านดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 18.41% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.32% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 38.42%
ด้านกองทุนทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 19.81% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 30.09% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (07/02/54 ) อยู่ที่ 32.45% โดยเมื่อเทียบกับ ดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินไทยบาท (เปรียบเทียบกับ TMB Gold Singapore) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 18.77% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.05% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 29.54%
ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (เปรียบเทียบกับ TMB Gold สิงคโปร์) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 20.34%ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 30.32% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 33.22%
สำหรับกองทุนทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ มีกลยุทธ์การลงทุนใช้นโยบายในการบริหารเชิงรับ(Passive Investment Strategy) โดยกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust (เป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่ง Gold Bullion) โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมี State Street Global Market LLC เป็น Marketing Agent กองทุน SPDR Gold Trust ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทจัดการจะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้ราคาทองคำเมื่อบ่ายวันศุกร์ (19ส.ค.) ได้ปรับขึ้นมาอีกโดย สมาคมค้าทองคำปรับเพิ่มราคาทอง เมื่อเวลา 13.30 น.อีก 250 บาท โดยราคาทองแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 26,150 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 16,050 บาท ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่บาทละ 26,550 บาท และรับซื้ออยู่ที่บาทละ 25,665 บาท
นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนมาถือทองคำมากขึ้น หลังจากที่กังวลกับปัญหาแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจะถดถอย ซึ่งปัญหานี้คงจะเป็นปัญหาในระยะยาวต่อไป และจะทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกจากนี้ไปจะยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่อาจมีการพักฐานบ้างในบางช่วง และยังมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในตลาดโลกจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงปลายปีนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในทิศทางของการถดถอยต่อไป
ด้านกองทุนทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 19.81% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 30.09% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (07/02/54 ) อยู่ที่ 32.45% โดยเมื่อเทียบกับ ดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินไทยบาท (เปรียบเทียบกับ TMB Gold Singapore) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 18.77% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.05% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 29.54%
ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (เปรียบเทียบกับ TMB Gold สิงคโปร์) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 20.34%ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 30.32% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 33.22%
สำหรับกองทุนทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ มีกลยุทธ์การลงทุนใช้นโยบายในการบริหารเชิงรับ(Passive Investment Strategy) โดยกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust (เป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่ง Gold Bullion) โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมี State Street Global Market LLC เป็น Marketing Agent กองทุน SPDR Gold Trust ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทจัดการจะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้ราคาทองคำเมื่อบ่ายวันศุกร์ (19ส.ค.) ได้ปรับขึ้นมาอีกโดย สมาคมค้าทองคำปรับเพิ่มราคาทอง เมื่อเวลา 13.30 น.อีก 250 บาท โดยราคาทองแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 26,150 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 16,050 บาท ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่บาทละ 26,550 บาท และรับซื้ออยู่ที่บาทละ 25,665 บาท
นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนมาถือทองคำมากขึ้น หลังจากที่กังวลกับปัญหาแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจะถดถอย ซึ่งปัญหานี้คงจะเป็นปัญหาในระยะยาวต่อไป และจะทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกจากนี้ไปจะยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่อาจมีการพักฐานบ้างในบางช่วง และยังมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในตลาดโลกจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงปลายปีนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในทิศทางของการถดถอยต่อไป