ราคาทองยังมีแนวโน้มพุ่งอีกจากปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศ แม้ช่วงนี้จะมีแรงเพื่อปรับฐาน แนะนักลงทุนทยอยเข้าซื้อสะสมได้และถือยาว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุน กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ณ วันที่ 29 กันยายน 2554 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.62% เทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินไทยบาท อยู่ที่ 8.84% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.78% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 17.91% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 19.45%เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 22.23% ทั้งนี้เมื่อเมื่อเทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 7.57% 14.57% 20.27% ตามลำดับ
ทางด้าน กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์นั้น ผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุด กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.96% เทียบกับดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.15% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.90% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ อยู่ที่ 13.26% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 22.89% เมื่อเทียบกับดัชนีอยู่ที่ 22.90% และเมื่อเทียบกับดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.84% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 17.94% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 27.32% ตามลำดับ
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในขณะนี้ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปอีกในระยะยาวเพราะเนื่องจากแนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่า แม้ว่าในขณะนี้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาบ้างจากแรงเทขายเพราะความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของยุโรป
"ในระยะยาวแล้วมองกันว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงมาและคนจะหันไปถือทองคำกันมากขึ้นขณะเดียวกันในระยะต่อไปแบงก์ชาติของประเทศต่างๆจะเข้าถือทองคำมากขึ้นเช่นเดียวกัน และจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปอีก" นายไพศาล กล่าว
ทางด้าน บลจ.ยูโอบี มองแเนวโน้มของราคาทองคำว่า การปรับลดลงในช่วงนี้น่าจะเป็นการปรับฐานหลังราคาทองคำปรับสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้าทยอยซื้อทองคำ โดยยังคงคำแนะนำการลงทุนในกองทุน UOB Smart Gold เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์มีค่าที่น่าลงทุนในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ นอกจากนี้การที่ธนาคารกลางหลายประเทศยังทยอยซื้อทองคำเพื่อเป็นทุนสำรอง จะยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำได้
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาทยอยลงทุนใน UOB Smart Gold & Mining Equity ได้ เนื่องจากกองทุนนี้คาดว่าจะมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในกองทุนทองคำทั่วไปเพราะเป็นการลงทุนในหุ้น หากตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น กองทุนมีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนที่ดีเพราะราคาปัจจุบันของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ยังไม่สะท้อนราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาในช่วงไตรมาสที่สาม (ราคาเฉลี่ยปรับจาก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น1,700 ดอลลาร์สหรัฐ )
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุน กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ณ วันที่ 29 กันยายน 2554 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.62% เทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินไทยบาท อยู่ที่ 8.84% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.78% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 17.91% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 19.45%เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 22.23% ทั้งนี้เมื่อเมื่อเทียบกับดัชนี London Gold Market Fixing Ltd AM Fix Price ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 7.57% 14.57% 20.27% ตามลำดับ
ทางด้าน กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์นั้น ผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุด กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.96% เทียบกับดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.15% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.90% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ อยู่ที่ 13.26% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 22.89% เมื่อเทียบกับดัชนีอยู่ที่ 22.90% และเมื่อเทียบกับดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.84% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 17.94% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 27.32% ตามลำดับ
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในขณะนี้ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปอีกในระยะยาวเพราะเนื่องจากแนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่า แม้ว่าในขณะนี้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาบ้างจากแรงเทขายเพราะความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของยุโรป
"ในระยะยาวแล้วมองกันว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงมาและคนจะหันไปถือทองคำกันมากขึ้นขณะเดียวกันในระยะต่อไปแบงก์ชาติของประเทศต่างๆจะเข้าถือทองคำมากขึ้นเช่นเดียวกัน และจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปอีก" นายไพศาล กล่าว
ทางด้าน บลจ.ยูโอบี มองแเนวโน้มของราคาทองคำว่า การปรับลดลงในช่วงนี้น่าจะเป็นการปรับฐานหลังราคาทองคำปรับสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้าทยอยซื้อทองคำ โดยยังคงคำแนะนำการลงทุนในกองทุน UOB Smart Gold เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์มีค่าที่น่าลงทุนในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ นอกจากนี้การที่ธนาคารกลางหลายประเทศยังทยอยซื้อทองคำเพื่อเป็นทุนสำรอง จะยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำได้
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาทยอยลงทุนใน UOB Smart Gold & Mining Equity ได้ เนื่องจากกองทุนนี้คาดว่าจะมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในกองทุนทองคำทั่วไปเพราะเป็นการลงทุนในหุ้น หากตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น กองทุนมีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนที่ดีเพราะราคาปัจจุบันของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ยังไม่สะท้อนราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาในช่วงไตรมาสที่สาม (ราคาเฉลี่ยปรับจาก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น1,700 ดอลลาร์สหรัฐ )