บลจ.เอ็มเอฟซี เชื่อมั่นดัชนีวิ่งไปถึง 1,200 จุด หลังผลประกอบการบจ. ยังโตต่อ และได้อานิสงส์นโยบายภาครัฐหนุน ล่าสุด เข็น "เอ็มเอฟซี สปอท 7 ซีรี่ส์ 3" เก็บหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศ ล็อคเป้าหมาย 7 เดือน ทำกำไร 7% เปิดขายถึง 23 สิงหาคมนี้
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฝ่ายตราสารทุนของเอ็มเอฟซีคาดการณ์ว่า ปีนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องโดยยังคงเป้าหมายดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์คาดว่ายังสามารถเติบโตได้ดี และน่าจะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 18-20 นอกจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และมีการดำเนินนโยบายที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยที่สนับสนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อไปอีกด้วย
ทั้งนี้ จากโอกาสเหมาะสมของแนวโน้มการเติบโตที่ดีของตลาดหลักทรัพย์ไทยดังกล่าว เอ็มเอฟซีจึงเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 7 ซีรี่ส์ 3 (SPOT 7S3) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 สิงหาคมนี้มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยกองทุนตั้งเป้าหมายมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยผลตอบแทนที่คืนผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 10.7 บาทต่อหน่วยลงทุน ภายในเวลา 7 เดือน
โดยจุดเด่นของกองทุนเปิด SPOT 7S3 มีการบริหารกองทุนแบบ Active เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยลงทุนในตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ ซึ่งกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุนด้วยการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นางสาวประภากล่าวว่า กองทุนนี้ จะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีรายได้จากในประเทศเป็นหลัก และเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาไม่ผันผวนและ Demand ฟื้นตัว โดยผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกหุ้นที่ราคาตลาดต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และหุ้นของบริษัทที่มีความสามารถทำกำไรสูง พร้อมทั้งจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อโอกาสในการทำกำไรที่ดี
ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 7 เดือน หากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด SPOT 7S3 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10.85 บาทเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาทและทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคง ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศ เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป และหากไม่เป็นไปตามคาดหมายภายในเวลาดังกล่าว กองทุนเปิด SPOT 7S3 จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิ์เลือกที่จะลงทุนต่อไป ซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม หรือขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการภายในเวลารับคำสั่งซื้อขายตามที่ระบุไว้ในโครงการ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเลิกกองทุนหากผลตอบแทนถึงร้อยละ 7
นางสาวประภากล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็มเอฟซีได้บุกเบิกกองทุนทาร์เก็ตฟันด์มานานกว่า 10 ปี ซึ่งได้สร้างผลงานในการบริหารกองทุนได้ตามเป้าหมายผลตอบแทนถึง 21 กองทุน และต้นปีนี้ เอ็มเอฟซีได้ประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิด I-Emerging 10 ที่ลงทุนหุ้นของตลาดเกิดใหม่ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนร้อยละ 12.94 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายผลตอบแทนที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 และล่าสุดได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 7 ซีรี่ส์ 2 (SPOT 7S2) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ สปอท 7 (I-GOLD 7) ซึ่งทั้งสองกองทุนมีผลงานเป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 7 เช่นกัน ทั้งนี้ เอ็มเอฟซีเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์อันยาวนานจะสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป
