ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. ซีมิโก้ ปรับแผนกองไพรเวทฟันด์ เน้นจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะราย เช่น นักลงทุนเกาหลีที่ชอบลงทุนในไทย และจัดตั้งกองทุนให้รัฐมนตรี ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ด้านประชาสัมพันธ์รุกขยายช่องทางการเติบโตผ่านโซลเชียลมีเดียร์ สร้างเซลล์ขึ้นเองและตัวแทนจำหน่าย
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานกองทุนรวมส่วนบุคคล หรือไพรเวทฟันด์ ต่อจากนี้ไปบริษัทจะเน้นเป็นกองทุนหุ้นเป็นหลัก เพราะเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญ โดยจะเน้นกลุ่มเน้นจับกลุ่มเฉพาะลูกค้าบางราย ซึ่งได้เริ่มมีการพูดคุยกับนักลงทุนเกาหลีใต้ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยในลักษณะของ Private Equity มูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติอื่น ๆ ด้วยที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในลักษณะเดียกวัน
นอกจากนี้ บริษัทเองยังมีการจัดตั้งกองทุนให้กับรัฐมนตรีบางรายที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีและมีความสนใจให้บริษัทจัดตั้งกองทุนให้ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการพูดคุยกันแล้วประมาณ 1 - 2 ราย ซึ่งบริษัทเองมีความตั้งใจที่จะจัดกองทรัพย์สินให้ซึ่งถูกต้องตามกฎหมายและเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน หากนักการเมืองบางรายจะให้ความสนใจอีกบริษัทยินดีและพร้อมดูและกองทุนให้
สำหรับนักลงทุนในกองทุนไพรเวทฟันด์ที่จะให้เราดูแลต้องมีเงินขั้นต่ำไม่น้อยไปกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากว่า บริษัทของเราเองมีบริษัทแม่ที่เป็น บริษัทหลักทรัพย์ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจึงจะเป็นเฉพาะบางรายที่เลือกเข้ามาลงทุนเอง รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย
"การทำงานของกองทุนรวมส่วนบุคคลต่อจากนี้ไปจะเป็นเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ก็มีนักการเมืองท่านหนึ่งที่มีความต้องการจะให้เราเข้าไปดูแลทรัพย์สินให้ ซึ่งเราก็พร้อมและยินดีที่จะดูแลให้แต่ต้องอยู่ในความดูต้องและโปร่งใส่ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้กองทุนส่วนบุคคลอีกกองที่ผมจะทำคล้าย ๆ อิควิตี้เวนเจอร์เแคปพวกแมสชิ่งฟันด์ ซึ่งเราก็มีทาร์เก็ตอยู่แล้วที่เราจะเปิดภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการเปิดในวอลุ่มที่หายไป"
นายไววิทย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องของการทำประชาสัมพันธ์ในกองทุนของบริษัทนั้น บริษัทได้ดูในเรื่องของโซลเชียลมีเดียร์ เพราะก่อนหน้านี้ตัวผมเองมีประสบการณ์ด้านนี้มาพอสมควร ซึ่งจะทำให้เราบริหารพอร์ตได้เป็นอย่างดี และมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทจะนำเอากลุ่มที่ชอบมาลงทุนเพิ่มในกองทุนที่นักลงทุนอยู่ก่อนหน้านี้เพื่อมาลงทุนเพิ่ม เพราะมองว่าเงินเดือนของนักลงทุนมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นบริษัทมีฐานข้อมูลของลูกค้าในการลงทุนอยู่ บริษัทจะทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ต่อไป
นอกจากนี้หลักการทำการตลาดของบริษัท ยังคงเน้นขายกองทุนผ่านตัวแทนจำหน่าย และสร้างเซลล์ขึ้นมาเอง ในการเสนอขายกองทุนต่าง ๆ นอกจากนี้แล้วแผนการตลาดในปีหน้าบริษัทเตรียมรุกด้านมีเดียร์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานกองทุนรวมส่วนบุคคล หรือไพรเวทฟันด์ ต่อจากนี้ไปบริษัทจะเน้นเป็นกองทุนหุ้นเป็นหลัก เพราะเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญ โดยจะเน้นกลุ่มเน้นจับกลุ่มเฉพาะลูกค้าบางราย ซึ่งได้เริ่มมีการพูดคุยกับนักลงทุนเกาหลีใต้ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยในลักษณะของ Private Equity มูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติอื่น ๆ ด้วยที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในลักษณะเดียกวัน
นอกจากนี้ บริษัทเองยังมีการจัดตั้งกองทุนให้กับรัฐมนตรีบางรายที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีและมีความสนใจให้บริษัทจัดตั้งกองทุนให้ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการพูดคุยกันแล้วประมาณ 1 - 2 ราย ซึ่งบริษัทเองมีความตั้งใจที่จะจัดกองทรัพย์สินให้ซึ่งถูกต้องตามกฎหมายและเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน หากนักการเมืองบางรายจะให้ความสนใจอีกบริษัทยินดีและพร้อมดูและกองทุนให้
สำหรับนักลงทุนในกองทุนไพรเวทฟันด์ที่จะให้เราดูแลต้องมีเงินขั้นต่ำไม่น้อยไปกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากว่า บริษัทของเราเองมีบริษัทแม่ที่เป็น บริษัทหลักทรัพย์ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจึงจะเป็นเฉพาะบางรายที่เลือกเข้ามาลงทุนเอง รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย
"การทำงานของกองทุนรวมส่วนบุคคลต่อจากนี้ไปจะเป็นเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ก็มีนักการเมืองท่านหนึ่งที่มีความต้องการจะให้เราเข้าไปดูแลทรัพย์สินให้ ซึ่งเราก็พร้อมและยินดีที่จะดูแลให้แต่ต้องอยู่ในความดูต้องและโปร่งใส่ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้กองทุนส่วนบุคคลอีกกองที่ผมจะทำคล้าย ๆ อิควิตี้เวนเจอร์เแคปพวกแมสชิ่งฟันด์ ซึ่งเราก็มีทาร์เก็ตอยู่แล้วที่เราจะเปิดภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการเปิดในวอลุ่มที่หายไป"
นายไววิทย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องของการทำประชาสัมพันธ์ในกองทุนของบริษัทนั้น บริษัทได้ดูในเรื่องของโซลเชียลมีเดียร์ เพราะก่อนหน้านี้ตัวผมเองมีประสบการณ์ด้านนี้มาพอสมควร ซึ่งจะทำให้เราบริหารพอร์ตได้เป็นอย่างดี และมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทจะนำเอากลุ่มที่ชอบมาลงทุนเพิ่มในกองทุนที่นักลงทุนอยู่ก่อนหน้านี้เพื่อมาลงทุนเพิ่ม เพราะมองว่าเงินเดือนของนักลงทุนมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นบริษัทมีฐานข้อมูลของลูกค้าในการลงทุนอยู่ บริษัทจะทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ต่อไป
นอกจากนี้หลักการทำการตลาดของบริษัท ยังคงเน้นขายกองทุนผ่านตัวแทนจำหน่าย และสร้างเซลล์ขึ้นมาเอง ในการเสนอขายกองทุนต่าง ๆ นอกจากนี้แล้วแผนการตลาดในปีหน้าบริษัทเตรียมรุกด้านมีเดียร์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย