บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่ง 4 กองทุนตราสารหนี้ลุยตลาดพร้อมกัน กระจายลงทุนทั้งในประเทศและในประเทศ เพิ่มทางเลือกลูกค่าพักเงิน ขายไอพีโอถึง 4 กรกฎานี้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผย ถึง กลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงนี้ว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงภาวะขาขึ้น บริษัทฯยังคงนโยบายออกกองทุนประเภท term fund ที่สามารถเสนออัตราผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่า ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกตามระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนถึง1 ปี ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ โดยขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนพร้อมกัน 4 กองทุน มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท คาดให้ผลตอบแทน 2.40-3.70% ต่อปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละกองทุน 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2554
สำหรับรายละเอียดแต่ละกองทุนประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y5 (SCB Foreign Fixed Income Fund 1Y5) อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทนประมาณ 3.70% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ คือพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ มีอันดับความน่าเชื่อถือ A+(Fitch) สัดส่วนการลงทุน 55% เงินฝากธนาคาร Bank of China สาขามาเก๊า อันดับความน่าเชื่อถือ A (Fitch) สัดส่วน 25% เงินฝากธนาคาร Union National Bank อันความน่าเชื่อถือ A+ (Fitch) สัดส่วน 20% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M18 (SCB Fixe Income Fund 3M18) ) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย สัดส่วน 55% เงินฝากธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) อันดับความน่าเชื่อถือ A-(S&P) สัดส่วน 20% และเงินฝากธนาคาร Bank of China สาขาฮ่องกง อันดับความน่าเชื่อถือ F1 (Fitch) สัดส่วน 25% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีก 2 กองทุนเน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ในประเทศ 6M1 (SCB LOCAL FIXED INCOME FUND 6M1) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อ เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล สัดส่วน 56% ตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา สัดส่วน 20% และเงินฝากธนาคารออมสิน 24% และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M57 (SCB Government Bond 3M57 Open End Fund) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผย ถึง กลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงนี้ว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงภาวะขาขึ้น บริษัทฯยังคงนโยบายออกกองทุนประเภท term fund ที่สามารถเสนออัตราผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่า ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกตามระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนถึง1 ปี ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ โดยขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนพร้อมกัน 4 กองทุน มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท คาดให้ผลตอบแทน 2.40-3.70% ต่อปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละกองทุน 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2554
สำหรับรายละเอียดแต่ละกองทุนประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y5 (SCB Foreign Fixed Income Fund 1Y5) อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทนประมาณ 3.70% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ คือพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ มีอันดับความน่าเชื่อถือ A+(Fitch) สัดส่วนการลงทุน 55% เงินฝากธนาคาร Bank of China สาขามาเก๊า อันดับความน่าเชื่อถือ A (Fitch) สัดส่วน 25% เงินฝากธนาคาร Union National Bank อันความน่าเชื่อถือ A+ (Fitch) สัดส่วน 20% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M18 (SCB Fixe Income Fund 3M18) ) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย สัดส่วน 55% เงินฝากธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) อันดับความน่าเชื่อถือ A-(S&P) สัดส่วน 20% และเงินฝากธนาคาร Bank of China สาขาฮ่องกง อันดับความน่าเชื่อถือ F1 (Fitch) สัดส่วน 25% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีก 2 กองทุนเน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ในประเทศ 6M1 (SCB LOCAL FIXED INCOME FUND 6M1) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อ เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล สัดส่วน 56% ตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา สัดส่วน 20% และเงินฝากธนาคารออมสิน 24% และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M57 (SCB Government Bond 3M57 Open End Fund) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์
