xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจโลกแม้จะผันผวน แต่ลงทุน"ทองคำ"ยังน่าสนใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"การลงทุนในทองคำเป็นการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงไม่ด้อยค่าลง ซึ่งการจัดAsset allocation ถือเป็นสิ่งที่ดีในการลงทุนซึ่งพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่นอกจากจะมีหุ้น ตราสารหนี้ แล้ว ควรมีทองคำ อยู่ในพอร์ตการลงทุนด้วย สำหรับมุมมองการลงทุนในช่วงนี้จะเห็นว่าเม็ดเงินต่างชาติเริ่มทยอยไหลกลับเข้าไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามวัฎจักรของการลงทุน โดยที่ผ่านมามีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมากเนื่องจาก สหรัฐฯและยุโรป มีวิกฤติเศรษฐกิจ”
 

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายยังคงมามองว่าการลงทุนทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนต่างๆ ในตลาดโลกในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ยิ่งใกล้หมด QE2 ของสหรัฐในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน นี้ ตลาดทั่วโลกดูจะผันผวนมากขึ้น ดังนั้นการเข้ามาลงทุนในช่วงนี้นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำยังคงต้องหาจังหวะเข้าสะสมหรือถือทองคำในพอร์ตลงทุนประมาณ 5-10% ตามระดับความเสี่ยงของนักลงทุน อีกทั้งยังมีบางบลจ.ออกกองทุนทองคำเพื่อมารองรับกลุ่มนักลงทุนด้วย
 

อย่างเช่น บลจ. ธนชาต ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ. ) ธนชาต จำกัด ได้เปิดขายไอพีโอกองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง-H และกองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง-UH ไปเมื่อวันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา โดยกองทุนได้จดทะเบียนไว้กองทุนละ 1,4000 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนได้ให้การตอบเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันไตรมาส 2 บลจ. ธนชาต ก็ยังเปิดขายกองทุนรวมทองคำแท่งเพิ่มอีก 2 กองทุน ได้แก่กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-H (TGoldRMF-H) และ กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH (TGoldRMF-UH) ซึ่งเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนวันที่ 8 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา โดยกองทุนรวม ทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายเน้นลงทุนโดยตรงในทองคำแท่ง (Physical gold หรือ Gold bullion) ในต่างประเทศ ที่มาตรฐานผู้ผลิตเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตามมาตรฐานของ London Bullion Market Association (LBMA) โดยกองทุน TGoldRMF-H ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และกองทุน TGoldRMF-UH ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

บุญชัย ได้บอกต่อว่า ทองคำ ณ ปัจจุบัน ยังคงมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจากประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย จีน ความต้องการถือทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางเพื่อกระจายความเสี่ยง ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ ภาวะเงินเฟ้อ ภาวะสงครามและความไม่สงบต่าง ๆ รวมถึงการเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้นผ่านรูปแบบการลงทุนต่าง ๆ เช่น อีทีเอฟ และกองทุนรวมทองคำแท่ง ในขณะที่การผลิตทองคำจากเหมืองต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
 

ขณะเดียวกันปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางและผลกระทบต่อราคาน้ำมันยังคงเป็นประเด็นหลักที่สนับสนุนราคาทองคำ เสริมด้วยความผันผวนของสกุลเงินตราสกุลต่าง ๆ จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ จะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำในช่วง 1 - 2 เดือนข้างหน้า ทำให้มีความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

“บริษัทเล็งเห็นว่าหลักการลงทุนที่ดี คือ การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภทตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับผู้ลงทุน เพื่อช่วยลดความไม่แน่นอนของผลตอบแทนได้ โดยการกระจายความเสี่ยงที่ดี คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่จะไม่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันทั้งหมด และที่ผ่านมาทองคำมีการเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับ หุ้น พันธบัตร หรือ ตราสารหนี้ ไม่มาก จึงเป็นการลงทุนทางเลือกที่อาจนำมาผสมกับการลงทุนหลัก ที่ลงทุนเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตร ตราสารหนี้ หรือหุ้น ได้ตามสัดส่วนที่เหมาะกับความต้องการของผู้ลงทุน”

ตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต บอกว่า การลงทุนในทองคำเป็นการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงไม่ด้อยค่าลง ซึ่งการจัดAsset allocation ถือเป็นสิ่งที่ดีในการลงทุนซึ่งพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่นอกจากจะมีหุ้น ตราสารหนี้ แล้ว ควรมีทองคำ อยู่ในพอร์ตการลงทุนด้วย สำหรับมุมมองการลงทุนในช่วงนี้จะเห็นว่าเม็ดเงินต่างชาติเริ่มทยอยไหลกลับเข้าไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามวัฎจักรของการลงทุน โดยที่ผ่านมามีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมากเนื่องจาก สหรัฐฯและยุโรป มีวิกฤติเศรษฐกิจ
 

พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มจัดการกองทุน บลจ. บัวหลวง กล่าวว่า การลงทุนทองคำยังมีความน่าสนใจอยู่ในระยะกลางถึงยาว เพราะปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศยุโรปที่ต้องใช้เวลานานในการแก้ไข แนวโน้มการอ่อนค่าของดอลล่าร์ และบทบาทของธนาคารกลางที่เปลี่ยนจากผู้ขายสุทธิมาเป็นผู้ซื้อสุทธิในทองคำ ดังนั้น จึงควรมีการลงทุนทองคำติดพอร์ตไว้บ้างเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ ควรเป็นไปตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนแต่ละราย

ทั้งนี้กองทุนทองคำของบริษัทที่บริหารจัดการอยู่ยังคงให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม แต่ต่ำกว่า Benchmark เพราะต้องเผื่อสภาพคล่องให้กับผู้ถือหน่วยจึงไม่ได้ Fully invested นอกจากนี้ ทางกองทุนทองคำของ บลจ. บัวหลวง ก็ไม่ได้ทำการประกันความเสี่ยงสำหรับค่าเงินซึ่งก็มีบางกองทุนในอุตสาหกรรมที่ทำเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกองทุนที่ต้องการให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศ และเพื่อเป็นช่องทางในการกระจายการลงทุนสำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ใช่เงินบาท
 
ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้กองทุนทองคำลักษณะนี้เป็นเสมือนอีกเงินตราสกุลหนึ่งในตลาดโลกที่ไม่สามารถถูกพิมพ์เพิ่มขึ้นได้ตามความต้องการของธนาคารกลางเหมือนที่สหรัฐอเมริกาพิมพ์ดอลลาร์ออกมาโดยไม่มีทองคำมารองรับ
กำลังโหลดความคิดเห็น