xs
xsm
sm
md
lg

"โชติกา"หวังเรทติ้งเตะตารายใหญ่ ปูทางปั้นพอร์ตกองทุนส่วนบุคคล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"โชติกา" เผยจัดเรทติ้ง บลจ.ไทยพาณิชย์ หวังปูทางเจาะลูกค้าสถาบันรายใหญ่ โดยเฉพาะ กบข.-สปส. หลังชวดบริหหารพอร์ตมาตลอด พร้อมคาดทั้งปีนี้ ดันพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลโตได้ 100%

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับปรุงระบบและกระบวนการทำงานภายในใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พร้อมสำหรับการที่บริษัทจะก้าวไปข้างหน้าในอนาคตนั้น บริษัทเองก็ต้องการจะรู้ว่าเดินมาถูกทางหรือไม่ จึงได้ว่าจ้างให้บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เข้ามาทำการเรทติ้งตัวบริษัท (บลจ.) เพื่อที่ได้รู้ว่ามุมมองจากคนที่เป็นกลางเขามองบริษัทอย่างไร ซึ่งถือเป็นการเรทติ้งบลจ.ครั้งแรกในอุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทยด้วย

โดยกระบวนการทำงานของทางฟิทช์ เรทติ้งนั้น จะเข้ามาดูระบบและตรวจสอบทุกอย่างตามกระบวนการของฟิทช์ แล้วนำส่งผลไปยังที่ฟิทช์ เรทติ้งที่ลอนดอนเพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้ง เพราะกระบวนการเหล่านี้เป็นสากล โดยการประเมินนั้น จะประเมินบลจ.ไทยพาณิชย์และเปรียบเทียบกับบลจ.แห่งอื่นในอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการเข้ามาทำการตรวจดูซ้ำทุกๆ ปี เหมือนกับการติดตามเรทติ้งหุ้นกู้โดยทั่วไป ในส่วนของการเรทติ้งกองทุนจะเน้นเจาะทำตลาดรายย่อยมากกว่าซึ่งบริษัทมีความแข็งแกร่งในเรื่องนี้อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องเรทติ้งกองทุน

ทั้งนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ได้รับเรทติ้งระดับ ‘M2+(tha)’ เป็นเรทติ้งอันดับ 2 จาก 5 อันดับ แสดงถึงการที่บริษัทมีความเสี่ยงต่ำต่อความล้มเหลวในการจัดการด้านการปฏิบัติการและการลงทุน เมื่อเทียบกับบริษัทจัดการกองทุนอื่นในประเทศไทย

นางโชติกากล่าวว่า การที่บลจ.ไทยพาณิชย์จัดทำเรทติ้งบลจ.ในครั้งนี้ เพราะต้องการจะมารุกตลาดลูกค้าสถาบันมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาบลจ.ไทยพาณิชย์เน้นตลาดรายย่อยเป็นหลัก ทำให้มีสัดส่วนลูกค้าสถาบันไม่มากนักประมาณ 10% เท่านั้น ในขณะที่เป็นฐานลูกค้ารายย่อย 90% โดยลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบน (High Net Worth) เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ลูกค้าสถาบันที่เป็นผู้เล่นหลักในกองทุนส่วนบุคคล คือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนประกันสังคม (สปส.) บริษัทยังไม่เคยได้บริหารกองทุนให้เลย ซึ่งการที่บริษัทได้เรทติ้งบลจ.แล้ว น่าจะช่วยให้นักลงทุนสถาบันเหล่านี้มีความมั่นใจในตัวบริษัทมากขึ้น และหวังว่าเรทติ้งบลจ.ที่มีจะช่วยให้บริษัทสามารถเจาะฐานลูกค้านักลงทุนสถาบันได้มากขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน การเรทติ้งบริษัทจะเป็นประโยชน์กับการเจาะฐานลูกค้าสถาบันเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมากองทุนส่วนบุคคลของบริษัทเติบโตขึ้นมาค่อนข้างมากเป็น 17,000 ล้านบาท จาก 10,000 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 53 ที่ผ่านมา โดยในปีนี้เอง บริษัทมีเป้าหมายจะโตเพิ่มขึ้น 100% และมองว่ากองทุนส่วนบุคคลเป็นจุดที่บริษัทจะเติบโตได้เป็นอย่างดีในอนาคต

"ปกตินักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่เขาจะมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจะมาช่วยคัดเลือกบลจ.ที่จะเข้ามาลงทุนให้อยู่แล้ว ซึ่งบริษัทที่ปรึกษานั้นก็จะมีกระบวนการในการจัดทำเรทติ้งของตัวเองเพื่อที่จะคัดเลือกกองทุนออกมาแนะนำให้กับนักลงทุนสถาบันที่ว่างจ้างเป็นที่ปรึกษา ในส่วนของบลจ.ไทยพาณิชย์เราจ้างฟิชท์เรทติ้งเพื่อให้เรทติ้งตัวบริษัทโดยตรงเลย ก็น่าจะเป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน เพราะการมีเรทติ้งขององค์กรก็จะช่วยให้บริษัทรู้สถานะของบริษัทว่าอยู่ระดับไหน"นางโชติกากล่าว

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนส่วนบุคคลยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยการเติบโตของบริษัทที่ผ่านมาเป็นกลุ่มบริษัทที่มีเงินเหลือมาให้บริษัทบริหารเงินให้ รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งออกนอกระบบแล้วจำเป็นต้องบริหารจัดการเงินที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก็เป้นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาว่าจ้างบริษัทในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทยังหวังจะได้มีโอกาสเข้าไปบริหารกองทุนให้กับกบข. สปส. บริษัทประกัน รวมทั้งจะเข้าร่วมประมูลบริหารจัดการเงินกองทุนของสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) วงเงิน 200,000 ล้านบาท ด้วย ที่ในเบื้องต้นจะมีการจ้างให้บลจ. 4 แห่ง มาบริหารให้
กำลังโหลดความคิดเห็น