ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.กสิกรไทย แนะนักลงทุนระวังปัญหายุโรปทำตลาดผันผวน ส่วนระยะยาวดีเหมาะช้อนซื้อช่วงหุ้นถูกเข้าพอร์ต ระบุปัญหากรีซ-ยุโรปยังไม่คลี่คลาย เหตุยังมีไม่ความชัดเจนด้านการช่วยเหลือ แถมอิตาลียังจ่อถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือต่อ จากกรีซ ไอร์แลนด์ และสเปน
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากกรีซประสบกับการถูกสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ปรับลดอันดับเมื่อช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า กรีซอาจจะประสบกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2554 ได้ เนื่องจาก IMF เอง ยังไม่ได้ตกลงที่จะมอบความช่วยเหลือทางด้านการเงินเพิ่มเติมให้กับกรีซ ตราบใดที่กรีซยังไม่บรรลุข้อตกลงเรื่องแผนการช่วยเหลือทางการเงินในปี 2555 จากสหภาพยุโรป ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของสกุลเงินยูโร และกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรด้วย
นอกจากกรีซ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นอีกประเทศที่ประสบกับปัญหาหนี้ภาครัฐที่สูงก็มีแนวโน้มประสบปัญหาเช่นเดียวกันที่เสี่ยงจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ต่อจากกรีซ ไอร์แลนด์ สเปน และโปรตุเกส
ส่วนสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่เพิ่งจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีปัญหาจากผลการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อการเลือกตั้งในระดับภูมิภาคครั้งแรกในรอบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และทำให้นโยบายการแก้ปัญหาด้านการเงินการคลังของสเปนสะดุดลงได้จากความไม่ต่อเนื่องของรัฐบาล
ผลจากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ในวันที่ 23 พฤษภาคมเนื่องจากนักลงทุนต่างก็กังวลกันว่า ปัญหาหนี้ดังกล่าว จะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคยุโรปอีก นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงด้วย โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปปรับตัวลดลงในวันที่ 23 พฤษภาคม ประมาณ 2% ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง 1.9% และตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงถ้วนหน้า 2 - 3% หรือแม้แต่ตลาดหุ้นไทยเอง ก็ปรับตัวลดลงประมาณ 1.7% จากความกังวลในสถานการณ์ปัญหาหนี้ในยุโรปดังกล่าว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอการฟื้นตัวออกไปอีก ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันเดียวถึงประมาณ 2 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่ทองคำ หลังจากมีการปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ก็ได้มีราคาปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำว่า สถานการณ์การลงทุน ณ ขณะนี้ จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะมีแนวโน้มที่ตลาดจะมีการปรับตัวลดลงได้อีก โดยเฉพาะหากปัญหาในกรีซยังคงไม่สามารถหาทางออกในการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในปี 2554 นี้ได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนระยะยาว อาจจะใช้โอกาสที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงในช่วงนี้เข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมได้ เนื่องจากในภาพรวม เศรษฐกิจของโลกในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ก็ยังคงมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่เติบโตดีอยู่
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากกรีซประสบกับการถูกสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ปรับลดอันดับเมื่อช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า กรีซอาจจะประสบกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2554 ได้ เนื่องจาก IMF เอง ยังไม่ได้ตกลงที่จะมอบความช่วยเหลือทางด้านการเงินเพิ่มเติมให้กับกรีซ ตราบใดที่กรีซยังไม่บรรลุข้อตกลงเรื่องแผนการช่วยเหลือทางการเงินในปี 2555 จากสหภาพยุโรป ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของสกุลเงินยูโร และกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรด้วย
นอกจากกรีซ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นอีกประเทศที่ประสบกับปัญหาหนี้ภาครัฐที่สูงก็มีแนวโน้มประสบปัญหาเช่นเดียวกันที่เสี่ยงจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ต่อจากกรีซ ไอร์แลนด์ สเปน และโปรตุเกส
ส่วนสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่เพิ่งจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีปัญหาจากผลการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อการเลือกตั้งในระดับภูมิภาคครั้งแรกในรอบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และทำให้นโยบายการแก้ปัญหาด้านการเงินการคลังของสเปนสะดุดลงได้จากความไม่ต่อเนื่องของรัฐบาล
ผลจากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ในวันที่ 23 พฤษภาคมเนื่องจากนักลงทุนต่างก็กังวลกันว่า ปัญหาหนี้ดังกล่าว จะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคยุโรปอีก นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงด้วย โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปปรับตัวลดลงในวันที่ 23 พฤษภาคม ประมาณ 2% ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง 1.9% และตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงถ้วนหน้า 2 - 3% หรือแม้แต่ตลาดหุ้นไทยเอง ก็ปรับตัวลดลงประมาณ 1.7% จากความกังวลในสถานการณ์ปัญหาหนี้ในยุโรปดังกล่าว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอการฟื้นตัวออกไปอีก ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันเดียวถึงประมาณ 2 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่ทองคำ หลังจากมีการปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ก็ได้มีราคาปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำว่า สถานการณ์การลงทุน ณ ขณะนี้ จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะมีแนวโน้มที่ตลาดจะมีการปรับตัวลดลงได้อีก โดยเฉพาะหากปัญหาในกรีซยังคงไม่สามารถหาทางออกในการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในปี 2554 นี้ได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนระยะยาว อาจจะใช้โอกาสที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงในช่วงนี้เข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมได้ เนื่องจากในภาพรวม เศรษฐกิจของโลกในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ก็ยังคงมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่เติบโตดีอยู่
