ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยร่วงต่ออีก 4.64 จุด ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มอีกเกือบ4พันล้านบาท โบรกฯมองสาเหตุเพราะราคาหุ้นเริ่มแพง ทำให้เม็ดเงินถูกโยกไปลงทุนในตลาดที่ถูกกว่า แนะติดตามสถานกาณ์ค่าเงินยูโร และการประชุมกนง.วันนี้
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้(11ม.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,013.39 จุด ลดลง 4.64 จุด หรือ -0.46% โดยตลอดวันปรับตัวอยู่ในแดนลบ ซึ่งลดลงไปร่วม10 จุด ก่อนจะขยับตัวขึ้นมา ทั้งนี้ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,018.75 จุด และต่ำสุดที่ 1,008.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,407 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 156 หลักทรัพย์ ลดลง 197 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์ ส่วน5อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ SCB มูลค่า 3,072.83 ล้านบาท ปิดที่ 97.75 บาท ลดลง 1.75 บาท BBL มูลค่า 2,004.20 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 1.50 บาท PTT มูลค่า 1,673.46 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท TOP มูลค่า1,562.09 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 0.75 บาท และ PTTCH มูลค่า1,451.06 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้าน นักลงทุนต่างชาติ ยังขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่องอีก 3,897.64 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปี (4ม.ค.) มีการขายสุทธิไปแล้ว 8,465.48 ล้านบาท ส่วนสถาบันขายสุทธิ 13.55 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 3,536.73 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ซื้อสุทธิ 374.46 ล้านบาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนแรงกว่าตลาดหุ้นเอเชียเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นหลายประเทศเริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมา เช่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ทั้งนี้ยังคงเห็นปรากฎการณ์คล้ายวันก่อนหน้า(10ม.ค.) ซึ่งไทย ฟิลิปปินส์และอินโดฯ เป็นตลาดที่ถูกขายหนัก เพราะ 3 ประเทศนี้ขึ้นมาค่อนข้างโดดเด่นเมื่อปีที่แล้ว ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นออกมาในลักษณะเปลี่ยนประเทศที่เข้าลงทุนไปประเทศที่มีระดับราคาต่ำกว่าเช่น จีน ฮ่องกง ประเด็นนี้คงมีต่อเนื่องไประยะหนึ่งจนกว่าระดับราคาของตลาดไทย ฟิลิปปินส์ อินโดฯเริ่มจะถูกลง คิดว่าความสนใจของต่างประเทศน่าจะกลับมาได้เพราะเอเชียไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่มีการเปลี่ยนประเทศลงทุน
สำหรับวันนี้(12ม.ค.) ต้องติดตาม 2 ประเด็น คือถ้าค่าเงินยูโรอ่อนลงต่อเนื่องจากความกังวลหนี้สินยุโรปก็มีผลให้แนวโน้มด้านจิตวิทยาของนักลงทุนต่างประเทศไม่ดีขึ้น ดัชนีจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะลงไปได้อีก โดยมีแนวรับที่ 1,008 และ 1,000 จุด อีกทั้งวันนี้จะการมีประชุมกนง.คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้(11ม.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,013.39 จุด ลดลง 4.64 จุด หรือ -0.46% โดยตลอดวันปรับตัวอยู่ในแดนลบ ซึ่งลดลงไปร่วม10 จุด ก่อนจะขยับตัวขึ้นมา ทั้งนี้ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,018.75 จุด และต่ำสุดที่ 1,008.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,407 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 156 หลักทรัพย์ ลดลง 197 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์ ส่วน5อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ SCB มูลค่า 3,072.83 ล้านบาท ปิดที่ 97.75 บาท ลดลง 1.75 บาท BBL มูลค่า 2,004.20 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 1.50 บาท PTT มูลค่า 1,673.46 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท TOP มูลค่า1,562.09 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 0.75 บาท และ PTTCH มูลค่า1,451.06 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้าน นักลงทุนต่างชาติ ยังขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่องอีก 3,897.64 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปี (4ม.ค.) มีการขายสุทธิไปแล้ว 8,465.48 ล้านบาท ส่วนสถาบันขายสุทธิ 13.55 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 3,536.73 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ซื้อสุทธิ 374.46 ล้านบาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนแรงกว่าตลาดหุ้นเอเชียเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นหลายประเทศเริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมา เช่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ทั้งนี้ยังคงเห็นปรากฎการณ์คล้ายวันก่อนหน้า(10ม.ค.) ซึ่งไทย ฟิลิปปินส์และอินโดฯ เป็นตลาดที่ถูกขายหนัก เพราะ 3 ประเทศนี้ขึ้นมาค่อนข้างโดดเด่นเมื่อปีที่แล้ว ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นออกมาในลักษณะเปลี่ยนประเทศที่เข้าลงทุนไปประเทศที่มีระดับราคาต่ำกว่าเช่น จีน ฮ่องกง ประเด็นนี้คงมีต่อเนื่องไประยะหนึ่งจนกว่าระดับราคาของตลาดไทย ฟิลิปปินส์ อินโดฯเริ่มจะถูกลง คิดว่าความสนใจของต่างประเทศน่าจะกลับมาได้เพราะเอเชียไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่มีการเปลี่ยนประเทศลงทุน
สำหรับวันนี้(12ม.ค.) ต้องติดตาม 2 ประเด็น คือถ้าค่าเงินยูโรอ่อนลงต่อเนื่องจากความกังวลหนี้สินยุโรปก็มีผลให้แนวโน้มด้านจิตวิทยาของนักลงทุนต่างประเทศไม่ดีขึ้น ดัชนีจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะลงไปได้อีก โดยมีแนวรับที่ 1,008 และ 1,000 จุด อีกทั้งวันนี้จะการมีประชุมกนง.คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%