บลจ. กสิกร ระบุ เงินเกาหลีครบอายุ ไหลเข้าแบงก์มากหลังให้ดอกเบี้ยสูง ขณะที่กองทุนประเภทเทอมฟันด์ยังขายดี คาด สิ้นปีดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.25% เงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.9%
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด หรือ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินลงทุนจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุจำนวนมาก โดยทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวมขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 200,000 ล้านบาท จากประมาณ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ในส่วนของ บลจ. กสิกรไทยนั้น ตั้งแต่ต้นปีมีเงินจากพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุ ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดยเงินที่กลับมาก็ไปลงทุนอยู่ในเงินฝากของประเทศ ใน ยูเออี แบงก์ และฮ่องกงแบงก์
ทั้งนี้ ธุรกิจกองทุนรวมช่วงที่ผ่านมามีเงินเข้ามาลงทุนมาก เพราะดอกเบี้ยต่ำ กองทุนต่างๆ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ตอนนี้ เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นอันเนื่องจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินจำนวนมากไหลไปสู่เงินฝากของแบงก์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นวัฎจักรปกติของการลงทุน
" โดยในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมกองทุนรวมคึกคักมาก แต่ในปีนี้อาจจะลงเพราะทางแบงก์ ได้เข้ามาแข่งระดมเงินฝากกับทาง บลจ. โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่สูง "นายพัชร กล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วง ไตรมาสแรกที่ปผ่านมากองทุนประเภท เทอมฟันด์ของ บลจ. กสิกรไทยยังขายได้ดีมาก โฌดยมีนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นเข้ามาลงทุนอยู่ โดย มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. กสิกรไทย ขณะนี้อยู่ที่ 186,000 ล้านบาท ขณะที่กองทุนใหม่ๆ นั้นขณะนี้ยังไม่มีออกมา
นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ทิศทางของราคาน้ำมัน ในปีนี้ หากราคาน้ำมันไม่พุ่งสูงขึ้นเกิน 100 เหรียญสหรัญ ต่อบาร์เรล ก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาก แต่เงินเฟ้อของไทยในขณะนี้ ยังไม่สูงมาก ทางแบงก์ชาติยังดำเนินการควบคุมได้ดี และคาดว่าแบงก์ชาติน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.25% ขณะที่เงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.9% แต่มองว่าในช่วงปีหน้า เงินเฟ้อน่าจะปรับตัวลดลงมา
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด หรือ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินลงทุนจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุจำนวนมาก โดยทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวมขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 200,000 ล้านบาท จากประมาณ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ในส่วนของ บลจ. กสิกรไทยนั้น ตั้งแต่ต้นปีมีเงินจากพันธบัตรเกาหลีที่ครบอายุ ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดยเงินที่กลับมาก็ไปลงทุนอยู่ในเงินฝากของประเทศ ใน ยูเออี แบงก์ และฮ่องกงแบงก์
ทั้งนี้ ธุรกิจกองทุนรวมช่วงที่ผ่านมามีเงินเข้ามาลงทุนมาก เพราะดอกเบี้ยต่ำ กองทุนต่างๆ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ตอนนี้ เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นอันเนื่องจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินจำนวนมากไหลไปสู่เงินฝากของแบงก์ต่างๆ ซึ่งถือเป็นวัฎจักรปกติของการลงทุน
" โดยในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมกองทุนรวมคึกคักมาก แต่ในปีนี้อาจจะลงเพราะทางแบงก์ ได้เข้ามาแข่งระดมเงินฝากกับทาง บลจ. โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่สูง "นายพัชร กล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วง ไตรมาสแรกที่ปผ่านมากองทุนประเภท เทอมฟันด์ของ บลจ. กสิกรไทยยังขายได้ดีมาก โฌดยมีนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นเข้ามาลงทุนอยู่ โดย มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. กสิกรไทย ขณะนี้อยู่ที่ 186,000 ล้านบาท ขณะที่กองทุนใหม่ๆ นั้นขณะนี้ยังไม่มีออกมา
นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ทิศทางของราคาน้ำมัน ในปีนี้ หากราคาน้ำมันไม่พุ่งสูงขึ้นเกิน 100 เหรียญสหรัญ ต่อบาร์เรล ก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาก แต่เงินเฟ้อของไทยในขณะนี้ ยังไม่สูงมาก ทางแบงก์ชาติยังดำเนินการควบคุมได้ดี และคาดว่าแบงก์ชาติน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.25% ขณะที่เงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.9% แต่มองว่าในช่วงปีหน้า เงินเฟ้อน่าจะปรับตัวลดลงมา
