อเบอร์ดีน แนะลงทุนหุ้น "สมอลแค็พ" หลายบริษัทในพอร์ตเติบโตมีผลกำไรดี เป็นโอกาสลงทุนรับผลตอบแทนสูงในระยะยาว ชี้ เงินยังวิ่งเข้าตลาดหุ้นไทยแต่ไม่มากเท่าที่ผ่านมาเหตุเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
นายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงปีที่ผ่านมาสภาวะเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแม้จะมีความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เป็นโอกาสของการลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยในส่วนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอลแค็พ (ABSM) ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง มีการทำกำไรรวมถึงมีกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในตลาดหุ้นไทยนั้นหุ้นกลุ่มขนาดเล็ก ไม่ได้มีดัชนีเหมือนกันกับในตลาดต่างประเทศ และไม่ได้มีการซื้อมากเท่ากับหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีนักลงทุนให้ความสนใจมาก แต่ทางอเบอร์ดีน ได้ทำเยี่ยมชมบริษัทพูดคุยกับผู้บริหาร และวิเคราะโดยทีมงานของ อเบอร์ดีนในประเทศไทยกับในประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ซึ่งอเบอร์ดีนมองว่า ในช่วงนี้ เป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดเล็ก
โดยในส่วนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอลแค็พ นั้นถือหุ้นอยู่ 23 ตัว โดยเลือกหุ้นที่มีคุณภาพและราคาที่เหมะสม ทั้งหุ้นในกลุ่มประกันภัย อย่างกรุงเทพประกันภัย ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีการจ่ายปันผลทุก 3 เดือน ขณะที่ในกลุ่มพาณิชย์ อย่างบิ๊กซี และสยามแม็คโคร และหุ้นในกลุ่มอื่น อย่าง บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บมจ. แอล.พี.เอ็น ดีเวลอปเมนท์ บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า
"ช่วง 2 ปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทที่อยู่ในพอร์ตดีมาก แต่ในปีนี้จะชอลอตัวลง จากปัญหาเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน รวมทั้งราคาหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นไปมาก ดังนั้นจึงมีแรงทเขายออกมา ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนบ้าง โดยขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นไป และไปถือตัวอื่นแทน ในส่วนของสภาพคล่องนั้น นักลงทุนไม่ต้องกัลวลทางอเบอร์ดีน ได้ดูแลสภาพคล่องของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอลแค็พ โดยที่นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และในระยะยาวแล้วจะให้ผลตอบแทนที่ดี" นายอดิเทพ
นายอดิเทพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเงินลงทุนจากต่างชาติยังไหลเข้าตลาดไทย เนื่องจากมองว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในไทยยังดี มีผลประกอบการที่ดี แม้ว่าต้นปีที่ผ่านมาเงินทุนอาจจะไหลกลับไปบ้างแต่ขณะนี้ก็กลับเข้ามาอีก แต่เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เงินทุนจากต่างประเทศอาจไหลเข้าตลาดไทยไม่แรงมากเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งก็กลับเข้าไปลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปด้วย ขณะเดียวกันปัจจัยจากต่างประเทศก็อาจส่งผลกระทบต่อหุ้นไทย โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ตัวเลขการว่างงานยังสูง
สำหรับ นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอลแค็พ ระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2554 โดยยอกเงินลงทุนทุกๆ 5 แสนบาท รับหน่วยลงทุน กองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) มูลค่า 1,500 บาท