บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแสตอบรับ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” คึกคักดันยอดจองเกินกว่า 2,000 ล้านบาท ชี้นักลงทุนมั่นใจเศรษฐกิจของกลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ราคาหุ้นถูก พร้อมคาด กองทุนจะเข้าถึงผลตอบแทนเป้าหมายได้ไม่นาน
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เสนอขายหน่วยลงทุนของ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จนส่งผลให้ยอดจองมีมูลค่าเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายที่ 2,000 ล้านบาท และเข้าสู่ยอดในส่วนกรีนชู 15% ทำให้มียอดเงินลงทุนรวมประมาณกว่า 2,170 ล้านบาท
“เราต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจในการบริหารงานของ บลจ.ไอเอ็นจี จากความเชื่อมั่นการบริหารกองทุนในกลุ่ม อีควิตี้ ทริกเกอร์”ที่เราประสบความสำเร็จในการบริหารกองแรก คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 12.70% ภายในระยะเวลา 4 เดือน 15 วัน และกอง (2) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 12.19% ภายในระยะเวลา 2 เดือน 11 วัน และกอง (3) ที่ ใกล้ถึงเป้าหมายแล้วเช่นกัน บวกกับความมั่นใจในการมองจังหวะการลงทุนที่แม่นยำของไอเอ็นจีที่จะทำให้นัก ลงทุนมีโอกาสการลงทุนด้วยต้นทุนที่เหมาะสมและมีโอกาสสูงที่จะได้รับผลตอบแทน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" นายต่อกล่าว
จากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้มียอดจองซื้อใน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% เข้ามาอย่างล้นหลาม ตลอดช่วงการเปิดเสนอขาย 26 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2554 มียอดจองสูงเกิน 2,000 ล้านบาท และเข้าสู่ยอดกรีนชู 15% ซึ่งทางเราต้องขอขอบคุณกับความเชื่อมั่นในการบริหารงานของเรา และขอขอบคุณผู้สนับสนุนการขายทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด” นายต่อกล่าว
สำหรับปัจจัยสนับสนุนความน่าสนใจของกองทุนดังกล่าว นอกจากจะมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า ซึ่งประกอบด้วยจีน ไต้หวันและฮ่องกง จะยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว บวกกับมุมมองของนักวิเคราะห์หลายแห่งที่คาดว่าตลาดหุ้นของทั้ง 3 แห่งยังคงมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น (Upside) ในช่วงประมาณ 27%-28% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า รวมถึงการมีนโยบายป้องกันความเสี่ยง (Currency Hedging) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้เราคาดว่าสามารถบริหารผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้
ทั้งนี้ การเตรียมแผนที่จะออกกองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศ และการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น กลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า นั้น เราจะยังคงทำหน้าที่ในการมองหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม สอดรับกับปัจจัยสนับสนุนการลงทุนที่พร้อม รวมถึงมุมมองการลงทุนจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศของกลุ่มไอเอ็นจี ซึ่งเราถือเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่ง คือ เราไปลงทุนในกองปลายทางที่เป็นของไอเอ็นจีด้วยกันในต่างประเทศ จึงทำให้เราสามารถทำงานร่วมกับผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศได้อย่างใกล้ชิด หากปัจจัยสนับสนุนพร้อมและสัญญาณการลงทุนดี ทางเราก็จะนำเสนอกองทุนให้กับนักลงทุนอีกครั้งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การออกผลิตภัณฑ์นี้สอดคล้องกับแผนการออกกองทุน (Product Strategy) ของ บลจ.ไอเอ็นจี โดยที่เราแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตราสารทุนเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก (Core Product) ได้แก่ กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยอีควิตี้ฟันด์ และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวัน และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริม (Satellite Product) ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% ซึ่ง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามเงินลงทุน สามารถลงทุนได้ระยะยาว และคาดหวังเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน เราคาดหวังว่าทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราได้