บลจ. ซีไอเอ็มบี ชี้กรณีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ไม่มีผลกระทบนักลงทุน จากผลสำรวจดีมานด์กองอสังหาฯยังมีอีกเพียบ เผยพร๊อพเพอร์ตี้ฟันด์เป็นอีกช่องทางการลงทุนที่ยังให้ผลตอบแทนสูง
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ที่กำลังมีปัญหาอยู่ขณะนี้ว่า ไม่มีผลกระทบต่อนักลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพราะนักลงทุนเริ่มมีความเข้าใจต่อกองทุนดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อการออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด เพราะจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังมี บลจ. ต่าง ๆ ที่ออกกองทุนประเภทดังกล่าวอยู่ ทำให้เล็งเห็นได้ว่าความต้องการของกองทุนประเภทดังกล่าวยังมีอยู่มาก รวมถึง บลจ. ซีไอเอ็มบี ด้วยที่ยังมีแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ที่รอไอพีโออีกประมาณ 2 กองทุน
ทั้งนี้ปัจจุบันทิศทางอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เองถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนของนักลงทุนในการกระจายการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี เพราะเราจะเห็นได้ว่ากองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่ค่อนสูงอยู่ที่ประมาณ 6- 7% ดังนั้นนักลงทุนควรจะแบ่งเงินออมมาลงทุนในกองทุนดังกล่าวประมาณ10-15% เพื่อเป็นการกระจายความเสี่่ยง
"กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.7% ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เองยังสามารถให้ผลตอแบที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6 - 7% ถือว่าสูงและน่าสนใจเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ ซึ่งเหมาะแก่การกระจายการลงทุนในพอร์ตของนักลงทุนเองเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี" นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ บลจ. ซีไอเอ็มบีที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้อย่าง กองทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ เมอร์เคียว สมุย (MSPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ (MONTRI) สามารถจ่ายปันผลให้แก่นักลงทุนได้ ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้แล้วความต้องการของกองทุนที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวยังมีอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาจากผลสำรวจทุกครั้งที่ออกกองทุนจะมีนักลงทุนพลาดโอกาสจากการลงทุนเป็นจำนวนมาก และล่าสุดที่บริษัทออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย หรือ Sub Sri Thai Property Fund หรือ SSTPF ได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเต็มจำนวนเงินที่จัดตั้งกองทุนรวมทั้งสิ้น 675 ล้านบาท
