เศรษฐกิจแดนมะกัน ส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง บลจ.เอ็มเอฟซีจับจังหวะดี ส่งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 เข้าเก็บหุ้นถูก ตั้งเป้ากำไร 10% ใน 1 ปี ขายไอพีโอแล้ววันนี้ (22 เม.ย.) ถึง 29 เม.ย.
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากข้อมูล Bloomberg วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐรักษาระดับการฟื้นตัวได้ดี จากปัจจัยสนับสนุนคือการจ้างงานที่ต่อเนื่องจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ธนาคารกลางสหรัฐดำเนินนโยบายรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำ เพื่อกระตุ้นการลงทุนตลาดทุน ในขณะที่การประเมินมูลค่าหุ้นของสหรัฐยังอยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับอดีต นอกจากนี้บริษัทในสหรัฐมีงบการเงินที่ดี โดยหลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย บริษัทในสหรัฐมีผลกำไรเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังมีสภาพคล่องค่อนข้างสูงจึงสนใจจะขยายการลงทุน และจ่ายเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาหุ้น ทั้งนี้จากปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนเพื่อโอกาสการสร้างผลตอบแทน
ดังนั้น บลจ.เอ็มเอฟซี จึงเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด I-US10S2 ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยหวังสร้างโอกาสผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) ภายใน 1 ปี จากจังหวะเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีการบริหารกองทุนแบบ Active เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ กองทุนเปิด I-US10S2 จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม (ETF) ทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และเงินฝาก ซึ่งกองทุนเปิด I-US10S2 มีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวะตลาด โดยขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
โดยกองทุนเปิด I-US10S2 จะสามารถเลิกโครงการได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือร้อยละ 10 ภายในเวลา 1 ปี โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิน 1 ปี กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11.10 บาทก็จะเลิกกองทุน และAuto redeem ไปยังกองทุนเปิด MM-GOV โดยนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด I-US10S2 สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท ซึ่งจะเปิดขายตั้งแต่วันที่ 22-29 เมษายนนี้
นางสาวประภากล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนของทาร์เก็ตฟันด์ ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนสำคัญที่มีการทำกำไรด้วยจังหวะการขายที่เหมาะสม ซึ่งบุคลิกของนักลงทุนมักจะปรับอัตราผลกำไรที่คาดหวังจากการลงทุนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนอาจพลาดโอกาสที่ดีไป ทาร์เก็ตฟันด์จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการตั้งเป้าหมายจากการลงทุนที่ชัดเจน
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากข้อมูล Bloomberg วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐรักษาระดับการฟื้นตัวได้ดี จากปัจจัยสนับสนุนคือการจ้างงานที่ต่อเนื่องจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ธนาคารกลางสหรัฐดำเนินนโยบายรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำ เพื่อกระตุ้นการลงทุนตลาดทุน ในขณะที่การประเมินมูลค่าหุ้นของสหรัฐยังอยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับอดีต นอกจากนี้บริษัทในสหรัฐมีงบการเงินที่ดี โดยหลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย บริษัทในสหรัฐมีผลกำไรเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังมีสภาพคล่องค่อนข้างสูงจึงสนใจจะขยายการลงทุน และจ่ายเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาหุ้น ทั้งนี้จากปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนเพื่อโอกาสการสร้างผลตอบแทน
ดังนั้น บลจ.เอ็มเอฟซี จึงเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด I-US10S2 ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยหวังสร้างโอกาสผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) ภายใน 1 ปี จากจังหวะเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีการบริหารกองทุนแบบ Active เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ กองทุนเปิด I-US10S2 จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม (ETF) ทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และเงินฝาก ซึ่งกองทุนเปิด I-US10S2 มีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวะตลาด โดยขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
โดยกองทุนเปิด I-US10S2 จะสามารถเลิกโครงการได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือร้อยละ 10 ภายในเวลา 1 ปี โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิน 1 ปี กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11.10 บาทก็จะเลิกกองทุน และAuto redeem ไปยังกองทุนเปิด MM-GOV โดยนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด I-US10S2 สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท ซึ่งจะเปิดขายตั้งแต่วันที่ 22-29 เมษายนนี้
นางสาวประภากล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนของทาร์เก็ตฟันด์ ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนสำคัญที่มีการทำกำไรด้วยจังหวะการขายที่เหมาะสม ซึ่งบุคลิกของนักลงทุนมักจะปรับอัตราผลกำไรที่คาดหวังจากการลงทุนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนอาจพลาดโอกาสที่ดีไป ทาร์เก็ตฟันด์จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการตั้งเป้าหมายจากการลงทุนที่ชัดเจน
