ผู้ถือหน่วยบอนด์ฝอยทองหายห่วง บลจ.แอสเซทพลัส ชี้การรับความช่วยเหลือทางการเงินของโปรตุเกส เป็นผลดีต่อผู้ถือหน่วย เหตุช่วยเพิ่มขีดความสามารถชำระหนี้ได้มากขึ้น
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซทพลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่ Jose Socrates รักษาการนายกรัฐมนตรีประเทศโปรตุเกส ได้ประกาศขอรับความช่วยเหลือทางการเงินผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น ผู้จัดการกองทุนพันธบัตรระยะสั้นของประเทศโปรตุเกส ชี้แจงว่า การประกาศขอรับความช่วยเหลือทางการเงินของประเทศโปรตุเกสครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนพันธบัตรระยะสั้นของประเทศโปรตุเกส
ทั้งนี้ เพราะการรับความช่วยเหลือดังกล่าว จะเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศ และทำให้สภาพคล่องของประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนพันธบัตรระยะสั้นที่จะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืนตรงตามกำหนดเวลา พร้อมช่วยเพิ่มเสถียรภาพทางการเมืองของโปรตุเกส เพราะตัวแทนพรรคฝ่ายค้านได้ประกาศสนับสนุนรัฐบาลรักษาการ ในการขอความช่วยเหลือทางการเงินในครั้งนี้
รายงานข่าวระบุว่า International Monetary Fund (IMF) จะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศโปรตุเกสในทันทีที่ได้รับการร้องขอจากโปรตุเกส ผ่านทาง European Union (EU) ซึ่งทาง EU ได้ประมาณการวงเงินที่โปรตุเกสจำเป็นต้องใช้ไว้ที่ 60-80 พันล้านยูโร ในช่วงระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ โดยเสนอให้ IMF เป็นผู้แทนในการกำหนดเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าว ในขณะที่ผู้บริหารของ EU ได้กล่าวชมเชยรัฐบาลโปรตุเกสว่าการขอความช่วยเหลือทางการเงินในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่เหมาะสม แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของโปรตุเกสต่อการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและกลุ่มประชาคมยุโรป
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศโปรตุเกส บลจ.แอสเซทพลัสประเมินเอาไว้ว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากภาคการส่งออกสินค้าการเกษตรกรรมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของประเทศเติบโตขึ้น ประกอบกับแนวโน้มอัตราการว่างงานอยู่ในระดับคงเดิมที่ 9% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี โดยปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่ โดยตั้งแต่ต้นปีรัฐบาลสามารถระดมเงินจากการขายพันธบัตรได้ตามที่คาดหมายไว้ ทั้งนี้ ปริมาณเงินที่ระดมได้จากการขายพันธบัตรตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันยังคงมากเพียงพอที่ส่งผลให้ฐานะคงคลังของรัฐบาลโปรตุเกสยังอยู่ในระดับที่ดี โดยในปี 2554 รัฐบาลโปรตุเกสจะยังคงดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุล ในระดับสูงที่ 6.8% ของ GDP แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7-8% และคาดว่าจะลดเหลือ 4-5% ในปี 2555