xs
xsm
sm
md
lg

AIA รณรงค์สวมหมวกกันน็อค ชี้สงกรานต์สิงห์นักบิดเจ็บมากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"AIA"ชี้สถิติอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์กว่าครึ่ง เกิดกับสิงห์นักบิด-คนซ้อน เตรียมจัดโครงการ"รอยยิ้มความปลอดภัย"รณรงค์สวมหมวกกันน็อค หลังพบรายงานกว่า 57 ใน 100 คนรอดชีวิตหากประสบอุบัติเหตุ ระบุความสูญเสียบนถนนเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องช่วยกันแก้ไขต่อไป

นายรอน แวน โอเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) พบว่า ในเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยเมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2552 ที่ผ่านมา พบมีผู้ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 5,000 คน และเสียชีวิตมากถึง 380 คนหรือเฉลี่ย 52 คนต่อวัน ประมาณครึ่งหนึ่ง (24 คนต่อวันหรือ 1 คนต่อชั่วโมง) เสียชีวิตจากการขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากคำนวณเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจจะสูงมากถึงปีละ 2 แสนล้านบาทหรือประมาณร้อยละ 2.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตบนท้องถนน เอไอเอ ประเทศไทย จึงจัดโครงการ “รอยยิ้มของความปลอดภัยจากใจเอไอเอ” ขึ้น ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 15 พฤษภาคม 2554 บริษัทจะจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยสวมหมวกนิรภัยเมื่อขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายธุรกิจของกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ รวมทั้งที่ถนนสายข้าวทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์

สำหรับกิจกรรมนี้นับว่า สอดคล้องกับนโยบายของสหประชาชาติที่ต้องการให้ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและให้ถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยกำหนดให้ปี 2011 - 2020 (พ.ศ. 2554 - 2563) เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยประเทศไทยได้กำหนดให้ปี 2554 เป็น “ปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%”

โดยข้อมูลของ ศวปถ. ยังบ่งชี้ว่าการสวมหมวกนิรภัยจะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถจักรยานยนต์ได้มากถึง 57 คนใน 100 คน โดยผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีอัตราเสี่ยงเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุมากกว่าผู้ที่ใช้หมวกนิรภัยถึง 2.347 เท่า

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการ“รอยยิ้มของความปลอดภัยจากใจเอไอเอ” เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทยังได้มอบหมวกนิรภัยแก่ สสส. เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุของ สสส. เอง รวมทั้งมอบต่อให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเกษตรกรและชาวบ้านในเขตชนบท ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้รถ จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางประจำวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น