บลจ.กสิกรไทยย้ำ พอร์ตกองทุน "เค-มีน่า" ยังแกร่ง เหตุลงทุนประเทศเปิด โอกาสเกิดเหตุการณ์ประท้วงมีน้อย เผยยังลงทุนเต็มที่และถือเงินสดเอาไว้ที่ 5% เช่นเดิม ด้านนักลงทุนยังนิ่ง ชี้ทำการบ้านดี เข้าใจลงทุนประเทศปลอดประท้วง
นายธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑืใหม่และจัดการกองทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาการประท้วงรัฐบาลที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง จนล่าสุดบานปลายไปยังประเทศลิเบียนั้น ในส่วนของกองทุนเปิดเค มีน่า หุ้นทุน (K-MENA)ซึ่งมีนโยบายลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและภูมิภาคใกล้เคียงนั้น อาจจะมีผลกระทบบ้างในแง่ของการลงทุน เพราะกองทุนหลักที่ไปลงทุนนั้น มีการกระจายการลงทุนทั่วภูมิภาค
แต่ปัจจุบัน หลังจากเกิดความวุ่นวาย พอร์ตการลงทุนของกองทุนส่วนใหญ่ ให้น้ำหนักการลงทุนอยู่ในแถบซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ คูเวต การ์ตาร์ หรือแม้กระทั่งซาอุดิอาระเบียเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้ ยังไม่เห็นสัญญาณการประท้วงของประชาชนในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุน เราเองยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนแต่อย่างใด ยังคงถือเงินสดเอาไว้ที่ 5% เช่นเดิม แต่ในส่วนของกองทุนหลักที่กองทุนเข้าไปลงทุนอาจจะมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนไปบ้างตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ผู้ลงทุนเอง ก็ยังไม่มีการขายหน่วยลงทุนออกมา เนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนเหล่านี้เองก็เข้าใจไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศที่กองทุนลงทุน
"ประเทศที่กองทุนลงทุนส่วนใหญ่ โอกาสจะเกิดเหตุการณ์ประท้วงแบบลิเบียหรืออียิปต์มีน้อย เนื่องช่องว่างระหว่างผู้นำและคนของประเทศเหล่านี้ม่ค่อนข้างน้อย แม้จะมีระบบการปกครองใกล้เคียงกัน ประกอบกับประเทศเหล่านี้ มีตลาดที่ค่อนข้างเปิดกว่าประเทศอื่นๆ" นายธนวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกองทุนปัจจุบัน ให้น้ำหนักการลงทุนในธุรกิจการเงิน ภาคการบริโภคและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก และแม้กลุ่มประเทศเหล่านี้ จะได้ประโยชน์จากการขุดเจาะน้ำมัน แต่หุ้นน้ำมันมีการจดทะเบียนในตลาดค่อนข้างน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่กองทุนลงทุนในข้างต้น ก็ได้ประโยชน์จากธุรกิจน้ำมันด้วยเช่นกัน
สำหรับกองทุนเปิดเค มีน่า หุ้นทุน มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนส่วนใหญ่ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนประเภทตราสารแห่งทุนที่จัดตั้งและลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและภูมิภาคใกล้เคียงโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน ตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝาก หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) หรือลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นในต่างประเทศที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต. กองทุนอาจมีการลงทุนในประเทศ สำหรับการดำเนินการของกองทุน รอจังหวะการลงทุนในต่างประเทศ รักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกันนี้
โดยจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่ ตราสารหนี้ เงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด และลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต. ทั้งนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ตามกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Notes)