บลจ.ฟินันซ่า ส่งกองทุน "ฟินันซ่า สตาร์ ทริกเกอร์ 7" เอาใจนักลงทุน ตั้งเป้าผลตอบแทน 7% ไม่เกิน 10 เดือน หรือ NAV ราคา 10.85 บาทต่อหน่วยลงทุนปิดกองทันที เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 25 ก.พ. 2554
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า กองทุนเปิดฟินันซ่า สตาร์ ทริกเกอร์ 5 บรรลุเป้าหมายภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้มีเสียงเรียกร้องจากผู้ลงทุนให้เปิดกองทุนทริกเกอร์อีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เราคาดว่าจะออกกองทริกเกอร์ในไตรมาสแรกมาตั้งนานแล้ว แต่เรารอจังหวะที่หุ้นปรับฐานอยู่ และเห็นว่าบลจ.อื่นออกทาร์เก็ตฟันด์กัน ซึ่งที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าเก่าเข้ามาจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าการออกกองในจังหวะที่ดีจะทำให้ทั้งเราและลูกค้านักลงทุนไม่เสียเวลาและให้ผลตอบแทนในเวลาที่เหมาะสม
สำหรับกองทุนเปิดฟินันซ่า สตาร์ ทริกเกอร์ 7 จะเสนอขายระหว่างวันที่ 16-25 ก.พ. 54 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เห็นว่าการลงทุนในหุ้นไทยปี 2554 จะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี จากคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทต่อหุ้น (Earning per share growth) 19.3% ในปี 2554 ถึงแม้จะไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งคาดว่าน่าจะเติบโตถึง 29.2% ในขณะที่ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนสูงขึ้น จึงตั้งเป้าหมายอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในระดับ ที่ไม่สูงมากนัก ภายในระยะเวลาจำกัด โดยเมื่อได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังแล้ว พร้อมที่จะหยุดความเสี่ยง โดยการขายทำกำไรและออกจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทันที
โดยจุดเด่นและกลยุทธ์การลงทุน คือ ใช้ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 10 เดือน และตั้งเป้าหมาย NAV ที่ 10.85 บาท/หน่วย (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 7% ต่อปี) ภายในระยะเวลา 6 เดือน กองทุนใช้นโยบายบริหารแบบ Absolute Return (กลยุทธ์ การลงทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนที่แน่นอน) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ในระยะเวลา 6 เดือน ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยตามที่คาดไว้ โดยการเลือกหุ้น (Stock Selection) บลจ.ฟินันซ่า จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่สูง และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เช่น กลุ่มธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มพลังงาน ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น หุ้นกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นซึ่งทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยกว้างขึ้น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนทางตรงของต่างชาติ (Foreign Direct Investment) ที่เพิ่มขึ้น กลุ่มพาณิชย์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2554 นี้
นอกจากนี้บลจ.ฟินันซ่า ได้เปิดขานกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ 3M3(FAMFIX3M3) มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 16-23 ก.พ. 54 โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 2.05% ต่อปี สำหรับผู้ลงทุนที่รอดูจังหวะการลงทุนในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะลงทุนใน ตั๋วเงินพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยหรือตั๋วเงินคลัง, ตั๋วเงินธนาคารทิสโก้ (A), ตั๋วเงินธนาคารนครหลวงไทย ,ธนาคารสแตนดาร์ดชารต์เตอร์(ไทย) ,ธนาคารดอยซ์แบงค์ (ไทย), ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย , ธนาคารกรุงไทย (AA) , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (A-), ธนาคารเกียรตินาคิน (A-) และตราสารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารที่สามารถลงทุน