xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนดอดเก็บหุ้นถูกเข้าพอร์ต ดัชนีปรับฐานเข้าทางทาร์เก็ตฟันด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์
ผู้จัดการกองทุนประเมินดัชนีหุ้นไทยระยะสั้น ยังวิ่งหาจุดต่ำสุด หลังดัชนีหลุด 950 จุด แต่เชื่อไม่หลุด 900 แน่ ชี้เป็นจังหวะดี ทาร์เก็ตฟันด์เก็บของถูก

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ดัชนีหุ้นปรับฐาน กองทุนหุ้นของเราได้ใช้กลยุทธ์ในการทยอยลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะกองทุนที่มีกระแสเงินสดเพียงพอ ส่วนกองทุนที่มีพอร์ตลงทุนเต็มก็มีการขายหุ้นบางส่วนออก เช่น หุ้นที่ราคาปรับลงไม่มาก และไปเก็บหุ้นที่ราคาถูกกว่าหรือไปลดลงไป 30-40% ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เงินลงทุนใหม่จากนักลงทุนที่มองเห็นโอกาส ก็ทยอยลงทุนเพิ่มด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ที่บริษัทเสนอขายไปก่อนหน้านี้ 2 กองทุน นั่นคือ กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 3 และกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 4 ถือเป็นจังหวะการลงทุนที่ดี โดยในส่วนของกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 3 ที่ปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนไปแล้ว ก็อยู่ระหว่างการทยอยลงทุน ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 4 ที่กำลังจะปิดการเสนอขายช่วงไอพีโอในวันนี้ (14 ก.พ.) ก็คาดว่าจะเป็นโอกาสดีในการลงทุนหุ้นในราคาถูกด้วย

"ในช่วงนี้เราติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด หากแนวโน้มยังมีการปรับฐานอยู่ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะออกกองทุนที่ 5 เพราะเรายังเชื่อมั่นว่าในระยะ 1-2 ปี ตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอยู่"นายประภาสกล่าว

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น นายประภาสกล่าวว่า ขณะนี้ดัชนีน่าจะอยู่ในช่วงของการหาจุดต่ำสุด ซึ่งการที่ดัชนีปรับลดลงต่ำกว่า 950 จุด เช่นนี้ ก็มีโอกาสจะขยับลงไปอีก ซึ่งเราเองมองว่าตจุดต่ำสุดน่าจะอยู่ในระดับ 900 จุดต้นๆ และไม่น่าจะหลุด 900 จุด อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีการปรับฐานมาแล้วประมาณ 3 เดือน ซึ่งน่าจะเป็นช่วงสุดท้ายของการปรับฐานแล้ว เพราะปกติการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งของช่วงที่ดัชนีวิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยใเวลาประมาณ 7 เดือนกว่าๆ ในการปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,000 จุด ประกอบกับ P/E ของตลาดหุ้นไทยเองยังถูก ในขณะที่อัตราการเติบโตยังดี จึงเชื่อว่าดัชนีจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นได้

สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 4 เป็นกองทุนที่กำหนดเป้าหมายและจ่ายคืนผล ตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มประมาณ10% หรือไม่ต่ำกว่า 11.11 บาทต่อหน่วย ภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปีหรือน้อยกว่า ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูงโดยใช้ กลยุทธ์การลงทุนจากความเชี่ยวชาญในการเลือกหลักทรัพย์และความคล่องตัวในการ ปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์เพื่อสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายภายใต้ความ เสี่ยงที่เหมาะสม โดยกองทุนจะเปิดเสนอขายครั้งเดียววันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันสุดท้าย ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

ทั้งนี้ ในช่วงเดียวกัน บลจ.ไอเอ็นจี ยังได้เสนอขายกองทุนเปิดไอเอ็นจี อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) ซึ่งเป็นกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์เช่นกัน โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม (Maket Timing) เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) ของกองทุนเพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาทไปอยู่ที่ 11.20 บาทต่อหน่วยลงทุน ณ วันใดวันหนึ่งก็จะเลิกกองทุนได้ทันที ทั้งนี้ กองทุนกองทุนเปิดไอเอ็นจี อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) จะเปิดขายไอพีโอวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันสุดท้าย กำหนดขั้นต่ำในการจองซื้อ 2,000 บาท

ก่อนหน้านี้เอง นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายการลงทุน บลจ. ทิสโก้ กล่าวว่า บลจ.ทิสโก้ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเป้าหมายดัชนีสูงสุดในปีนี้คาดว่าจะอยู่ 1,200 จุด และเป้าหมาย PE ที่เรามองในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 เท่า ซึ่งยังถือว่ายังมี Upside อยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 20% ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นทย ยังมีปัจจัยสนับสนุนในหลายด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเติบโตได้ในระดับที่ดี แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงบ้าง เช่น อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่อาจจะสร้างแรงกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ จากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาอาหารก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังอยู่ในวิสัยที่สามารถควบคุมได้ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ในปีนี้จะอยู่ที่ 3%-4% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) จะอยู่ที่ 2%-3%
กำลังโหลดความคิดเห็น