บลจ.ซีไอเอ็มบี ชี้ลงทุนหุ้นจีน อินโดนีเซีย อินเดีย สร้างผลตอบแทนเยี่ยม ชี้เป็นอีกทางเลือกการลงทุนแถบภูมิภาคเอเชีย หลังหุ้นไทยยังผันผวน
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในบ้านเราขณะนี้ยังมีความผันผวนอยู่มากไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรืออัตราดอกเบี้ยก็ตาม ดังนั้นการออกไปลงทุนยังต่างประเทศถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนแถบเอเชียที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศที่กำลังมีการขยายการเติบโตได้ดีอยู่ ณ ขณะนี้ได้แก่ ประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการขยายตัวด้านการเติบโตกว่า 100 %
"ทั้ง 3 ประเทศนี้มีรูปแบบคล้ายกัน คือ มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีประชากรจำนวนมาก การบริโภคภายในประเทศมีอัตราการเติบโตสูง และมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากโดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่บริษัทแม่มีความเชี่ยวชาญการลงทุน ทำให้การลงทุนทั้ง 3 ประเทศมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้ง 3 ประเทศยังมีการเติบโตของชุมชนเมืองอย่างรวดเร็วซึ่งช่วยให้มีการกระตุ้นการลงทุนด้านสาธารณูปโภคให้ขยายตัวซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดการลงทุนในด้านอื่นเกิดขึ้นตามมาอีกมาก ไม่เพียงเท่านี้จีนและอินเดียยังเป็นประเทศที่มีการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยสัดส่วนการนำเข้าส่วนใหญ่มาจากอินโดนีเซีย
ขณะเดียวกันบริษัทมีกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ ไชน่า - อินเดีย - อินโด อิควิตี้ (CIMB-PRINCIPAL CII) โดยกองทุนดังกล่าวจะนำเงินไปลงทุนในกองทุน CIMB-Principal China - India - Indonesia Equity Fund ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซียซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตสูงตามการเติบโตทางเศรษฐกิจในทั้ง 3 ประเทศ
โดยจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนประมาณ 60% หุ้นอินเดียประมาณ 30% และที่เหลืออีก 10% เป็นหุ้นอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไทยที่จะมีโอกาสไปลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เพราะปัจจุบันมีประชากรรวมกันมากกว่า 35% ของประชากรโลก ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้เราเองมีบริษัทแม่ คือ ซีไอเอ็มบี มาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าตลาดและเชี่ยวชาญด้านการลงทุนแบบนี้อยู่แล้ว และกองทุนหลักที่จะไปลงทุนก็มีผลตอบแทนในระดับที่ดี นอกจากนี้แล้วในปีนี้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มตัวซึ่งเตรียมแผนรุกธุรกิจผ่านเครือข่ายธนาคารแม่ทั้งในมาเลเซีย ซึ่งจะทำให้นำนักลงทุนในไทยออกไปลงทุนต่างประเทศได้
“บริษัทแม่ของเรามีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญด้านการลงทุนเป็นอย่างดี เพราะเรามีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ดังนั้นการทำงานของเราจึงเป็นมืออาชีพมากยิ่ง และเมื่อไม่นานมานี้ บลจ.ซีไอเอ็มบีเอง ได้ไปดูงานและศึกษาถึงการพัฒนาความเสี่ยงของบริษัทแม่ และได้นำมาปรับใช้กับการลงทุนในบ้านเราเพื่อให้นักลงทุนไทยได้รับผลตอบแทนที่ดีด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว