บลจ. ซีไอเอ็มบี ต่อยอดโนว์ฮาวบริษัทแม่ จ่อลุยกองทุนพันธบัตรสุคุกและกองทุนรวมอิสลามมิกคอมมอดิตี้ฟันด์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า พร้อมเสริมกองทุนโกลบอลด์บอนด์ เน้นลงทุนในกองทุนเทมเบอร์ตัน หวังรองรับเงินเกาหลีครบกำหนด
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในครึ่งปีแรกว่า ทิศทางการลงทุน ณ ขณะนี้มีการกำหนดโดยราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อ ดังนั้นจึงส่งผลกระทบมายังอัตราดอกเบี้ยที่ต้องมีการปรับขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถือว่ามีความผันผวนอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งในตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทเองต้องมีการตอบโจทย์ของลูกค้าให้ได้ว่าในช่วงที่เป็นเช่นนี้เราจะหาอะไรให้นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนได้เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด โดยในไตรมาส 1 - 2 นี้จะมีกองทุนรวมเกาหลีใต้ที่จะทยอยครบกำหนดอายุของกองทุน ดังนั้นบริษัทเองจะกองทุนทดแทนใหม่ ๆ เข้ามาอีก 2 กองทุนโดยกองทุนแรกจะเป็นกองทุนพันธบัตรศุคุกในภูมิภาคอาเซียน โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท และกองทุนรวมอิสลามมิกคอมมอดิตี้ฟันด์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาทเช่นกัน
“สำหรับกองทุนรวมอิสลามมิกคอมมอดิตี้ฟันด์คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน และทองคำ เนื่องจากว่าอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินประเทศมาเลเซียเองมีความใกล้เคียงกับบ้านเรา และเมื่อกองทุนเกาหลีได้ทยอยครบกำหนดแล้วนักลงทุนที่เคยลงทุนอยู่แล้วก็สามารถโยกเข้ามาลงทุนใน 2 กองทุนดังกล่าวได้เลยทันที” นายอนุสรณ์กล่าว
นอกจากนี้แล้ว บริษัทเตรียมออกกองทุนรวมต่างประเทศเพิ่มอีกหนึ่งกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนโกลบอลด์บอนด์ ที่จะเข้าไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเทมเบอร์ตัน โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีระดับ Investment Grade โดยกองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
ส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ลงทุนในคลังเก็บเอกสาร มูลค่าประมาณ 675 ล้านบาท ซึ่งเลื่อนการเปิดขายไอพีโอในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา เตรียมที่จะเปิดขายไอพีโอหลังเดือนกุมภาพันธ์ นี้
นายอนสุรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อจากนี้เราต้องมีการทำความเข้าใจกับนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นในด้านของการลงทุน เพราะมีหลากหลายรูป ต้องดูถึงความเหมาะสมกระจายการลงทุนในถูกจังหวะก็จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ ซึ่งนักลงทุนจะได้ใกล้ชิดกับเรามากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่าหลังจากที่ได้แบงก์แม่ทางมาเลเซียเข้ามาบริหารทำให้ความแข็งแกร่งของบลจ.มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย