บลจ.กสิกรไทยนะกองทุนเด่น K-OIL มั่นใจสร้างผลตอบแทนดีในระยะยาว หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมฟันธงราคาน้ำมันอยู่ระหว่าง 70- 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รับอานิสงส์ดอลลาร์อ่อน
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเด่นที่บริษัทเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงได้อย่างดีขณะนี้ได้แก่ กองทุนเปิดเค ออยล์เนื่องจากการปรับตัวของราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์ค่อนข้างต่ำกับตลาดหุ้นหรือตลาดตราสารหนี้ จึงช่วยกระจายความเสี่ยงและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะยังคงมีความผันผวน แต่ทิศทางของราคาปรับขึ้นตามเศรษฐกิจโลกโดย IMF ได้ประมาณการแนวโน้ม GDP ของโลกในปี 2553 จะเติบโตที่ 3.9 % จากปี 2552 อยู่ที่ -0.8 % โดยจีนและอินเดียจะเติบโตที่ 10.0 % และ 7.7 % ตามลำดับ
จากการเติบโตของเศรษฐกิจข้างต้นคาดว่า ความต้องการน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นในปี 2553 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจีนและอินเดีย สอดรับกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาดีกว่าที่คาดไว้ส่งผลต่อระดับราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงในระยะยาวตามไปด้วย
นอกจากนี้แนวโน้มเงินดอลลาร์อ่อนค่า ปัญหาการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันน่าจะมีส่วนผลักดันราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกได้ โดยในระยะยาวค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความเปราะบางและยังต้องใช้เวลาในการแก้ไข ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะผลักดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ที่กำหนดราคาในรูปของเงินดอลลาร์ให้ปรับตัวสูงขึ้น
ประกอบกับความกังวลปัญหาความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ เช่น ปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของกลุ่มกบฏในประเทศไนจีเรียที่ยังคงมีความยืดเยื้อ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักยังคาดการณ์ว่าระดับราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยในปี 2553 จะอยู่ในช่วงประมาณ 70- 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 23 กุมภาพันธ์ 2553) และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลจีน (CIG) ยังได้เข้าซื้อกองทุนน้ำมันในสหรัฐ จะเห็นได้ว่าการลงทุนในน้ำมันยังมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยาว
อนึ่ง กองทุนเปิดเค ออยล์ สำหรับกองทุนเปิด K-OIL ป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน PowerShares DB Oil Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity Index – Optimum Yield Crude Oil Excess Return
นอกจากนี้ กองทุนยังมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ทั้งนี้ ณ 30 ธันวาคม 2552 กองทุนมีการป้องกันเสี่ยงไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้