xs
xsm
sm
md
lg

2เดือนหุ้นกู้พุ่ง3หมื่นล้าน เอกชนชิงตัดหน้าบอนด์ออมทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐพล ชวลิตชีวิน
หุ้นกู้คึกคักเกินคาด สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเผย 2 เดือน เอกชนระดมทุนแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท ระบุชิงระดมเงิน ก่อนรัฐบาลคลอดพันธบัตรออมทรัพย์


นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า สถานการณ์ในการออกออกหุ้นกู้เอกชน หรือ Corporate Bond ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ามีการออกหุ้นกู้เอกชนไปแล้วทั้งสิ้นถึง 3 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมาย จากเดิมที่มีการคาดการณ์หรือคาดว่าในปี 53 นี้ หุ้นกู้เอกชนอาจจะลดลงจากปี 2552 ไปค่อนข้างมาก เนื่องจากในปีที่ผ่านมาได้มีการออกหุ้นกู้เอกชนกันอย่างเป็นประวัติการณ์ กว่า 430,000 ล้านบาทไปแล้ว

สำหรับเหตุผลในการที่การออกหุ้นกู้เอกชนมากตั้งแต่ในช่วงต้นปีนั้น ค่อนข้างที่จะตอบได้ยากว่าเพราะสาเหตุใด เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่น่าจะมีผลมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลัง จะมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ เพื่อระดมเงินจำนวน 100,000 ล้านบาทออกมาในช่วงปลายเดือนมีนาคมต่อต้นเมษายนที่จะถึงนี้

จึงเป็นไปได้ว่าทำให้บริษัทเอกชนที่มีแผนต้องการจะระดมเงินในปีนี้ ต้องชิงจังหวะออกหุ้นกู้มาก่อนที่พันธบัตรออมทรัพย์จะออกมา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรออมทรัพย์นั้นรวมภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปด้วยจึงทำให้อัตราผลตอบแทนแตกต่างจาก Benchmark ตามปกติที่เป็นพันธบัตรธรรมดาไปพอสมควร

สำหรับรายละเอียดในการออกหุ้นกู้เอกชนในช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น นายชาญศักดิ์ ไชยภูมิสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขึ้นทะเบียนและข้อมูลตราสารหนี้ของ ThaiBMA ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในเดือนมกราคม ยังไม่เห็นความคึกคักมากนัก เพราะมีบริษัทเอกชนเพียง 2 รายเท่านั้น ที่ออกหุ้นกู้ออกมา คือ บริษัท โฮมโปร จำกัด(มหาชน) ออกมาเป็นจำนวน 700 ล้านบาท กับบริษัท ทุนธนชาต จำกัด(มหาชน) ออกมาจำนวน 3,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเท่ากับในเดือนมกราคม มีการออกหุ้นกู้ 3,700 ล้านบาท

แต่สำหรับในเดือนกุมภาพันธ์ มีการออกหุ้นกู้เอกชนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 26,336 ล้านบาท โดยกลุ่มที่ออกหุ้นกู้มากที่สุดก็คือกลุ่มไฟแนนซ์ เป็นจำนวน 7,700 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำนวน 7,000 ล้านบาท บริษัท ภัทรลีสซิ่ง จำนวน 500 ล้านบาท และ บริษัท ฐิติกร จำนวน 200 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ก็จะมีกลุ่มพลังงาน ซึ่ง เป็นการออกหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัท ปตท ทั้งสิ้น 2 รุ่น เป็นจำนวน 6,636 ล้านบาท และก็มีกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกมาทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ 1,500 ล้านบาท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคท์ 1,500 ล้านบาท แสนสิริ 1,000 ล้านบาท ไทคอน 800 ล้านบาท และศุภาลัย 200 ล้านบาท

นอกจากนั้น ก็จะมีหุ้นกู้ของเทสโก้โลตัส 2 รุ่น จำนวน 4,000 ล้านบาท บริษัท CPF 1,000 ล้านบาท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า 1,000 ล้านบาท และธนาคารเกียรตินาคิน 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ อายุของหุ้นกู้เอกชนที่ออกมา ส่วนใหญ่จะมีอายุหุ้นกู้อยู่ระหว่าง 2-5 ปี จะมีเพียงของ ปตท. 2 รุ่นเท่านั้น ที่มีอายุ 7 ปี กับ 12 ปี แต่โดยรวมแล้วจะเป็นรุ่นที่มีอายุระหว่าง 2-3 ปีเป็นส่วนมาก

ในส่วนของอัตราของผลตอบแทน จะขึ้นอยู่กับเรทติ้งเป็นกรอบสำคัญ โดยหากเป็นกลุ่มที่มีเครดิตเรทติ้งระดับ BBB อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 – 5.9% หากเป็นเรทติ้งระดับ A อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.3 – 4.8% ในขณะที่หากเรทติ้งอยู่ในระดับ AA อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 3.02 – 3.78% ส่วน 2 รุ่นของปตท. รุ่นอายุ 7 ปี จะให้อัตราผลตอบแทน 4.1% ส่วนรุ่นอายุ 12 ปี จะให้อัตราผลตอบแทน 4.5%

นายชาญศักดิ์ กล่าวว่า ความคึกคักของการออกหุ้นกู้ น่าจะมาจากเหตุผล 3 ประการ คือ ประการแรก เรื่องของทิศทางอัตราดอกเบี้ย ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้น ประการที่ 2 คือเรื่องที่กระทรวงการคลังกำลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์จำนวนมาก และประการที่ 3 ภาคธุรกิจอาจจะเห็นว่าจากนี้ไปน่าจะเป็นจังหวะที่น่าลงทุน ทำให้ต้องมีการระดมเงินทุนเข้ามาก่อนนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น