บลจ.กสิกรไทยเดินหน้าขายกองหุ้นกู้เอกชนต่อเนื่อง หลังยอดความต้องการยังมีต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ ชูผลตอบแทน ประมาณ 2.24% ต่อปี เน้นลงทุนบริษัทเรตติ้งระดับสูงเท่านั้น
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับที่ดีของทุนตราสารหนี้เอกชนทำให้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกตราสารหนี้เอกชนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade และมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทจึงเตรียมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เอกชนกองทุนใหม่คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ (KFI38MA) อายุโครงการประมาณ 3 ปี 2 เดือน ขนาดกองทุน 4,000 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 5-12 มีนาคม นี้
โดยผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุประมาณ 3 ปี ซึ่ง ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ให้ผลตอบแทนหลังหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 2.24% ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 ปี ก่อนหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 1.49% เท่านั้น
"การขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 39 เดือน (KFI39MA) ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนและรัฐวิสาหกิจ อายุโครงการประมาณ 3 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างสูง และสามารถระดมทุนได้ถึง 4,027.37 ล้านบาท ทำให้บริษัทเตรียมจะเปิดขายกองทุนนี้เพิ่มเติม"นางสาวยุพาวดีกล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะลงทุนในหุ้นกู้เอกชนประกอบด้วย หุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจขนส่งและคมนาคม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ อาทิ หุ้นกู้ของบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้เฮาส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของผู้ออกตราสารโดย ทริส เรทติ้ง ที่ A / A- / A- / A- และ BBB+ ตามลำดับ เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคเงินเข้าลงทุนในระยะยาวจากการลงทุนหุ้นกู้ชั้นดี อย่างไรก็ตาม ตราสารที่จะลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวการณ์ที่เหมาะสม“นางสาวยุพาวดีกล่าว
นอกจากนี้ ล่าสุด บลจ.กสิกรไทย ยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) และกองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) ในอัตรา 0.20 บาท 0.12 บาท 0.12 บาท และ 0.14 บาทต่อหน่วยตามลำดับ โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 29 มีนาคม 2553 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 177,678,196.43 บาท
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับที่ดีของทุนตราสารหนี้เอกชนทำให้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกตราสารหนี้เอกชนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade และมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทจึงเตรียมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เอกชนกองทุนใหม่คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ (KFI38MA) อายุโครงการประมาณ 3 ปี 2 เดือน ขนาดกองทุน 4,000 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 5-12 มีนาคม นี้
โดยผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุประมาณ 3 ปี ซึ่ง ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ให้ผลตอบแทนหลังหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 2.24% ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 ปี ก่อนหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 1.49% เท่านั้น
"การขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 39 เดือน (KFI39MA) ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนและรัฐวิสาหกิจ อายุโครงการประมาณ 3 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างสูง และสามารถระดมทุนได้ถึง 4,027.37 ล้านบาท ทำให้บริษัทเตรียมจะเปิดขายกองทุนนี้เพิ่มเติม"นางสาวยุพาวดีกล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะลงทุนในหุ้นกู้เอกชนประกอบด้วย หุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจขนส่งและคมนาคม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ อาทิ หุ้นกู้ของบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้เฮาส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของผู้ออกตราสารโดย ทริส เรทติ้ง ที่ A / A- / A- / A- และ BBB+ ตามลำดับ เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคเงินเข้าลงทุนในระยะยาวจากการลงทุนหุ้นกู้ชั้นดี อย่างไรก็ตาม ตราสารที่จะลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวการณ์ที่เหมาะสม“นางสาวยุพาวดีกล่าว
นอกจากนี้ ล่าสุด บลจ.กสิกรไทย ยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) และกองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) ในอัตรา 0.20 บาท 0.12 บาท 0.12 บาท และ 0.14 บาทต่อหน่วยตามลำดับ โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 29 มีนาคม 2553 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 177,678,196.43 บาท