xs
xsm
sm
md
lg

KTAMแนะจัดพอร์ตกระจายเสี่ยง มั่นใจให้ผลตอบเเทนชนะเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แสงจันทร์  ลี
บลจ.กรุงไทย แนะนักลงทุนกระจายความเสี่ยง แบ่งเงินลงทุนหลายๆสินทรัพย์ทั้ง หุ้น บอนด์ คอมมอนีตี้ กองทุนอสังหาฯ คาดให้ผลตอบเเทนชนะเงินเฟ้อได้ พร้อมแนะนำนักลงทุนติดตามข่าวสารและประเมินสถานการณ์ก่อนการลงทุนในวันที่ 26กพ.นี้

นางสาวแสงจันทร์ ลี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการลงทุนในช่วงนี้ว่า การลงทุนจะมีความผันผวนสูง ทั้งตลาดตราสารหนี้ และตลาดทุน

สำหรับการลงทุนในตราสารทุน นักลงทุนควรกำหนดกรอบในการเข้าซื้อ/ขาย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการเข้าลงทุน การเลือกหุ้นที่จะลงทุนก็มีความสำคัญเช่นกัน

โดยต้องกำหนดน้ำหนักการลงทุนบางส่วนในหุ้นที่มีลักษณะเป็นทั้ง Defensive & Dividend Stocks ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดได้ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและความเสี่ยงจากการลงทุนยังสูงอยู่  

ขณะเดียวกัน นักลงทุนควรแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หลายๆประเภท เช่น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลี กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ กองทุนที่มีการลงทุนอ้างอิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งการลงทุนในลักษณะดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อได้

นอกจากนี้ นักลงทุนอาจกันเงินบางส่วนสำหรับลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น  เพื่อรอดูความชัดเจน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองภายในประเทศ เพื่อหาจังหวะในการเข้าลงทุนเพิ่ม

ทั้งนี้ สัดส่วนในการลงทุนต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน ซึ่งก็น่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนชนะอัตราเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตามนางสาวแสงจันทร์ ยังได้ประเมินสถานกาณ์ภาวะตลาดหุ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ว่า ช่วงก่อนการพิจารณาการตัดสินของศาล นักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง ว่ามีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่

โดยช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนอาจทยอยเข้าลงทุนเพิ่มได้บางส่วนหากตลาดมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่คาดว่าจะที่เบาบาง และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อาจเกิดความสั่นคลอนได้ง่าย ในกรณีที่เกิดกระแสข่าวลือ ความรุนแรง และการก่อวินาศกรรม

โดยคาดว่าภายหลังจากการพิพากษา ความอึมครึมน่าจะถูกคลี่คลายไปได้ในระดับหนึ่ง การวิเคราะห์ถึง Scenario ที่อาจเกิดขึ้นกับการเมืองไทยในอนาคต น่าจะเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยสรุป ช่วงเวลาดังกล่าวนักลงทุนก็คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต้องวิเคราะห์ถึงสิ่งที่มากระทบว่าเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นระยะสั้น หรือกระทบต่อโครงสร้างทางการเมืองในระยะยาว และปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป

ขณะที่นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ การลงทุนที่คาดว่าจะให้ผลตอบเเทนที่ดีก็ยังคงอยู่การลงทุนในหุ้น ซึ่งดัชนี SETจะไม่เหมือนกับในปีที่ผ่านมา เรามองว่าทั้งปี 53 น่าจะอยู่ที่ 10-20% โดยใช้พื้นฐานจาก 710-720 จุด

โดยดัชนีน่าจะอยู่ในกรอบ 800-850 จุด อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงโดยการกระขายการลงทุนทั้ง หุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการกระจายการลงทุนในลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้ผลตอบเเทนของนักลงทุนชนะอัตราเงินเฟ้อได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น