คอลัมน์บัวหลวง Money Tips
โดย นรวีร์ วงศ์สมมาตร
บลจ. บัวหลวง
เมื่อถึงเวลาที่จะเกษียณ ท่านมีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณพอเพียงหรือยังครับ ? คำถามนี้มักถูกถามบ่อยกับผู้ที่กำลังวางแผน หรือเริ่มคิดที่จะวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ
ซึ่งการวางแผน และบริหารเงินออมเพื่อการเกษียณให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากในการออม เพราะท่านต้องมีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด และต้องอดทน เนื่องจากการออมเพื่อใช้หลังเกษียณเป็นการออมเงินที่ใช้ระยะเวลานานครับ
สำหรับวันนี้ผมขอนำทุกท่านมาทบทวนเคล็ด(ไม่)ลับเกี่ยวกับการออมเงินเพื่อการเกษียณซึ่งหลายท่านอาจจะหลงลืมกันไปบ้าง แต่ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่จะมาเล่าสู่กันฟัง เหล่านี้จะมีประโยชน์ และสามารถช่วยท่านผู้อ่านที่ยังไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ให้สามารถเกษียณได้อย่างมีความสุข ลองมาดูกันครับ
1. เริ่มทันที เพียงคำสั้นๆ ที่ผมอยากจะบอกทุกท่านว่าอย่าพลัดวันประกันพรุ่ง ทุกๆ ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะเกษียณสุข หรือเกษียณเศร้า
หากเริ่มออมเงินเมื่ออายุน้อย ก็สามารถทยอยออมเงินได้ มีระยะเวลาในการออมที่ยาวนานกว่าท่านที่เริ่มออมเมื่อใกล้เกษียณ
อย่างไรก็ตามไม่มีคำว่าสายเกินไปครับ ถึงแม้ว่าคุณจะมีอายุเข้าใกล้เวลาที่จะเกษียณแล้วก็ตาม เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่คุณ เริ่มออมไม่ว่าจะออมช้า เร็ว มาก หรือน้อย จะถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อยามเกษียณทั้งหมดครับ
2.ออมเงินผ่านกองทุนรวมประหยัดภาษีให้มากที่สุดภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด นั้นก็คือการลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ Retirement Mutual Fund ครับ เหตุผลหลักๆ ที่ผมแนะนำให้ลงทุนในกองทุนดังกล่าวก็เพราะว่า เงินที่ลงทุนในกองทุนรวมประเภทนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
หากปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีครับ และที่สำคัญคือกองทุนรวม RMF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายซึ่งท่านสามารถเลือกให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ไม่ลงทุนในหุ้น) เหมาะสำหรับท่านที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงในเรื่องหุ้นได้ หรือกองทุนรวมตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่เหมาะกับผู้ที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
และต้องการได้รับการผลตอบแทนที่เกิดจากลงทุนในหุ้นด้วยเป็นต้น ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติมในคู่มือภาษี และข้อควรระวังคือการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงครับ
3.กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ท่านผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า จงอย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตระกร้าใบเดียวกัน เพราะหากตระกร้าตกหล่น
ท่านก็จะไม่มีไข่รับประทานนะครับ เช่นเดียวกันกับการกระจายพอร์ตในการลงทุนออกไป โดยมีการถือครองสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งชนิด ทั้งนี้หากท่านลงทุนในสินทรัพย์ชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงชนิดเดียว และต่อมามูลค่าของสินทรัพย์ที่ท่านลงทุนมีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของท่านมีโอกาสขาดทุนเกิดขึ้น
หากว่าท่านลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งชนิด และผลตอบแทนของสินทรัพย์ทั้งสองชนิดไม่เคลื่อนไหวขึ้นลงไปพร้อมกันในทุกๆ ช่วงเวลา
หรือกล่าวได้ว่าสินทรัพย์ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันน้อยมาก เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และส่งผลให้ผลตอบแทนที่แท้จริงเบี่ยงเบนไปจากผลตอบแทนที่ท่านคาดหวังไม่มากเท่าใดนักครับ
โดยพอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนที่ดีคือพอร์การลงทุนที่สินทรัพย์แต่ละชนิดมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์เดียวกันในทิศทางที่แตกต่างกันครับ ซึ่งหลายท่านอาจจะสงสัย และเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วท่านจะทราบเรื่องหล่านี้ได้อย่างไร ผมขอให้ท่านพิจารณาข้อถัดไปด้านล่างนี้ครับ
4.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ผมขอแนะนำให้ปรึกษานักวางแผนทางการเงิน แต่ท่านผู้อ่านท่านใดที่มีความรู้ความสามารถ หรือผ่านประสบการณ์ในการบริการจัดการเงินก็อาจจะไม่มีความจำเป็นเท่าใดนัก
โดยนักวางแผนทางการเงินเหล่านี้จะคอยให้คำแนะนำปรึกษาในเรื่องของสถานะทางการเงินของท่านรวมถึงแนวทางในการจัดสรรเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท
ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุนและการประกันชีวิต ตลอดจนสามารถแนะนำท่านถึงแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ครับ
หัวข้อต่างๆ ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนที่มีผลต่อการการเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ หากจริงๆ แล้วยังมีประเด็นต่างๆ อีกมากที่จำเป็น และส่งผลกระทบกับท่านที่กำลังเริ่มวางแผนทางการเงินเพื่อเกษียณอย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตามหากท่านเริ่มออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ท่านก็สามารถทยอยออมได้ ไม่เป็นภาระที่หนักมากเกินไป ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทุกท่านต้องมีหากอยากเกษียณอย่างมีความสุขคือต้องสร้างวินัยการลงทุนตั้งแต่วันนี้ครับ