บลจ.นครหลวงไทย เตรียมกองทุนพันธบัตรเกาหลีเพื่อรองรับเม็ดเงินจาก 6 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่จะครบกำหนดอายุโครงการในเดือน ก.พ.นี้ เชื่อให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรในประเทศถึง 0.50-1.00% แย้มข่าวดีเตรียมเปิดขายไอพีโอกองทุนทองคำรับตรุษจีน
นายไตรพิชิต วัฒนวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะมีกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ครบกำหนดอายุโครงการประมาณ 6 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน4/09 (NKT FFI3M4/09), กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 เดือน1/09 (NKT FFI4M1/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M2/09 (SCI INGI9M2/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M3/09 (SCI INGI9M3/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M1/09 (SCI INGI12M1/09) และ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M2/09 (SCI INGI12M2/09) โดยมีเม็ดเงินทั้งหมดที่จะครบอายุโครงการอยูที่ประมาณกว่า 1,000ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งเดียวในวันครบกำหนดอายุโครงการ โดยจะจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนส่วนที่เหลือทั้งหมดของกองทุน เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดแมกซ์มั่นคง (MAX M) ของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติ หรือตามวิธีการที่ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งไว้ในหนังสือแสดงความจำนงในการรับเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุน/การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (สำหรับกองทุนเปิด NKT FFI3M4/09) ทั้งนี้ ในกรณีวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในวันทำการก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการจัดเตรียมกองทุนใหม่เพื่อมารองรับเม็ดเงินทั้งหมดจากการครบกำหนดโครงการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยบริษัทจะมีการทยอยเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมาให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง และนอกจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีแล้วนั้น บริษัทได้มีกองทุนรวมตลาดเงินซึ่งได้แก่กองทุนเปิดแมกซ์มั่นคง เพื่อให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนระหว่างพักเงินเพื่อรอการตัดสินใจลงทุนใหม่ด้วย
"เรามองว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้นั้น ยังสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่ประมาณ 0.50-1.00% ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผลตอบแทนจะปรับตัวลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็มีการปรับตัวดีขึ้นมาในช่วงนี้ อีกทั้งยังมีความต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องของนักลงทุน รวมไปถึงขณะนี้ยังไม่สินค้าที่จะมารองรับเม็ดเงินได้ดีเท่ากับพันธบัตรเกาหลี อีกทั้งความเสี่ยงก็ไม่มากเมื่อเทียบกับในอดีต "นายไตรพิชิต กล่าว
นายไตรพิชิต กล่าวอีกว่า นอกจากจะมีการออกกองทุนเกาหลีเพื่อมารองรับเม็ดเงินที่ครบกำหนดอายุโครงการแล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทจะมีการเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ)ของกองทุนทองคำ ออกมาให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุนอีกด้วย โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดขายรับตรุษจีนนี้
นายไตรพิชิต วัฒนวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะมีกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ครบกำหนดอายุโครงการประมาณ 6 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน4/09 (NKT FFI3M4/09), กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4 เดือน1/09 (NKT FFI4M1/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M2/09 (SCI INGI9M2/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M3/09 (SCI INGI9M3/09), กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M1/09 (SCI INGI12M1/09) และ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M2/09 (SCI INGI12M2/09) โดยมีเม็ดเงินทั้งหมดที่จะครบอายุโครงการอยูที่ประมาณกว่า 1,000ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งเดียวในวันครบกำหนดอายุโครงการ โดยจะจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนส่วนที่เหลือทั้งหมดของกองทุน เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดแมกซ์มั่นคง (MAX M) ของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติ หรือตามวิธีการที่ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งไว้ในหนังสือแสดงความจำนงในการรับเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุน/การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (สำหรับกองทุนเปิด NKT FFI3M4/09) ทั้งนี้ ในกรณีวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในวันทำการก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการจัดเตรียมกองทุนใหม่เพื่อมารองรับเม็ดเงินทั้งหมดจากการครบกำหนดโครงการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยบริษัทจะมีการทยอยเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมาให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง และนอกจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีแล้วนั้น บริษัทได้มีกองทุนรวมตลาดเงินซึ่งได้แก่กองทุนเปิดแมกซ์มั่นคง เพื่อให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนระหว่างพักเงินเพื่อรอการตัดสินใจลงทุนใหม่ด้วย
"เรามองว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้นั้น ยังสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่ประมาณ 0.50-1.00% ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผลตอบแทนจะปรับตัวลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็มีการปรับตัวดีขึ้นมาในช่วงนี้ อีกทั้งยังมีความต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องของนักลงทุน รวมไปถึงขณะนี้ยังไม่สินค้าที่จะมารองรับเม็ดเงินได้ดีเท่ากับพันธบัตรเกาหลี อีกทั้งความเสี่ยงก็ไม่มากเมื่อเทียบกับในอดีต "นายไตรพิชิต กล่าว
นายไตรพิชิต กล่าวอีกว่า นอกจากจะมีการออกกองทุนเกาหลีเพื่อมารองรับเม็ดเงินที่ครบกำหนดอายุโครงการแล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทจะมีการเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ)ของกองทุนทองคำ ออกมาให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุนอีกด้วย โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดขายรับตรุษจีนนี้
