บล.ภัทร เนื้อหอม บลจ.อเบอร์ดีน ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 2.27 แสนหุ้น ใน 6 กองทุน “ผู้บริหาร” แจงจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำ โอกาสฟื้นเร็วหากภาวะตลาดหุ้นฟื้น-ปันผลสูง สร้างผลตอบแทนทีดีกับผู้ถือหน่วย
แบบรายงานการได้มา หรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แจ้งว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด ได้เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA 227,400 หุ้น หรือคิดเป็น 0.1067% ราคาเฉลี่ย 11.87 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 ทำให้ภายหลังจากการซื้อหุ้นครั้งนี้รวมถือหุ้นเพิ่มเป็น 10.69 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5%
ทั้งนี้ การเข้าไปซื้อหุ้นครั้งนี้ 227,400 หุ้น แบ่งเป็นซื้อในนามกองทุนเปิดอเบอร์ดีนเฟล็กซิเบิ้ลแคปปิตอล 14,200 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 574,200 หุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนโกรท 70,800 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 3.68 ล้านหุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว 110,300 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 2.97 ล้านหุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ 21,100 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 775,500 หุ้น กองทุนอเบอร์ดีนสมอลแค็พ 6,600 หุ้น ทำให้เพิ่มเป็น 645,600 หุ้น และกองทุนเปิดอเบอร์ดีนแวลู 4,400 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 92,100 หุ้น
นายชายเกษม วัฒนสิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า การที่อเบอร์ดีน เข้าไปซื้อหุ้นของ บล.ภัทร เพิ่มขึ้น เนื่องจาก มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำจากภาวะตลาดและเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเมื่อภาวะตลาดหุ้นไทยกลับมาดี หุ้นบล.ภัทรก็จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เร็วเมื่อเทียบกับหุ้นของ บล.อื่นๆ ทำให้มีความน่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุน
นอกจากนี้ ถึงหุ้น บล.ภัทร ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง ประกอบกับบล.ภัทรมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์มีการดำเนินงานที่โปร่งใสมีธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งบริษัทเชื่อว่า จะให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนกับทาง บลจ.อเบอร์ดีน
“การลงทุนของ บลจ.อเบอร์ดีน จะเป็นการลงทุนระยะยาว ประมาณ 3 ปีขึ้นไป ซึ่งบริษัทไม่หวังที่จะได้ผลตอบแทนจากการที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจริงบริษัทก็จะยังไม่มีการขายหุ้นออกมา จากมองว่าการลงทุนยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งในช่วงสั้นก็จะได้รับเงินปันผล จากที่หุ้นดังกล่าวให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง” นายชายเกษม กล่าว
แบบรายงานการได้มา หรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แจ้งว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด ได้เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA 227,400 หุ้น หรือคิดเป็น 0.1067% ราคาเฉลี่ย 11.87 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 ทำให้ภายหลังจากการซื้อหุ้นครั้งนี้รวมถือหุ้นเพิ่มเป็น 10.69 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5%
ทั้งนี้ การเข้าไปซื้อหุ้นครั้งนี้ 227,400 หุ้น แบ่งเป็นซื้อในนามกองทุนเปิดอเบอร์ดีนเฟล็กซิเบิ้ลแคปปิตอล 14,200 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 574,200 หุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนโกรท 70,800 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 3.68 ล้านหุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว 110,300 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 2.97 ล้านหุ้น กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ 21,100 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 775,500 หุ้น กองทุนอเบอร์ดีนสมอลแค็พ 6,600 หุ้น ทำให้เพิ่มเป็น 645,600 หุ้น และกองทุนเปิดอเบอร์ดีนแวลู 4,400 หุ้น ทำให้ถือเพิ่มเป็น 92,100 หุ้น
นายชายเกษม วัฒนสิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า การที่อเบอร์ดีน เข้าไปซื้อหุ้นของ บล.ภัทร เพิ่มขึ้น เนื่องจาก มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำจากภาวะตลาดและเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเมื่อภาวะตลาดหุ้นไทยกลับมาดี หุ้นบล.ภัทรก็จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เร็วเมื่อเทียบกับหุ้นของ บล.อื่นๆ ทำให้มีความน่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุน
นอกจากนี้ ถึงหุ้น บล.ภัทร ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง ประกอบกับบล.ภัทรมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์มีการดำเนินงานที่โปร่งใสมีธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งบริษัทเชื่อว่า จะให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนกับทาง บลจ.อเบอร์ดีน
“การลงทุนของ บลจ.อเบอร์ดีน จะเป็นการลงทุนระยะยาว ประมาณ 3 ปีขึ้นไป ซึ่งบริษัทไม่หวังที่จะได้ผลตอบแทนจากการที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจริงบริษัทก็จะยังไม่มีการขายหุ้นออกมา จากมองว่าการลงทุนยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งในช่วงสั้นก็จะได้รับเงินปันผล จากที่หุ้นดังกล่าวให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง” นายชายเกษม กล่าว