บลจ. บัวหลวง เปิดขายกองตราสารหนี้ ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มอีก 3 กองทุน "บัวหลวงธนรัฐ 2/10 , 3/10 และ ธนสารพลัส 1/10" เริ่มไอพีโอแล้ววันนี้ ถึง 28 มกราคม 2553 เผยนักลงทุนแห่ตอบรับ "ธนสารพลัส 1/10" ยอดจองล้น
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 2/10 (B2/10) 2. กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 3/10 (B3/10) และ 3. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 1/10 (BP1/10) โดยกองทุนได้ทำการเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 มกราคม 255
ทั้งนี้กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 2/10 มีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 3/10 อายุประมาณ 14 เดือน ขนาดโครงการ 1,500 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือในตราสารหนี้สถาบันการเงิน เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน
ขณะเดียวกันกองทุนอาจจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในกิจการที่มีความมั่นคง มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตัวตราสาร และหรือผู้ออกตราสาร ตั้งแต่ A- ขึ้นไป ณ วันที่ลงทุน ส่วนที่เหลือ ลงทุนในเงินฝาก และหรือการทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้กับสถาบันการเงิน และหรือในหลักทรัพย์และหรือทรัพย์สินอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดให้ลงทุนได้
ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 1/10 ที่ได้เริ่มเปิดขายไอพีโอไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่เสนอขายเต็มจำนวนแล้ว ในวันที่ 25 มกราคม 2553 บริษัทจัดการจึงขอประกาศแจ้งปิดการเสนอขายกองทุนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2553 เป็นต้นไป เพื่อบริษัทจักได้นำไปจดทะเบียนกองทุนรวมกับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวอายุประมาณ 6 เดือน และขนาดโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งกองทุนมีนโยบายกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ หรือตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ หรือตราสารแห่งหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป
ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ อนึ่ง การลงทุนในประเทศจะเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะเป็นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝากที่มีอายุของตราสารหรือสัญญาหรือระยะเวลาการฝากเงินไม่เกินหนึ่งปี หรือลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 2/10 (B2/10) 2. กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 3/10 (B3/10) และ 3. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 1/10 (BP1/10) โดยกองทุนได้ทำการเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 มกราคม 255
ทั้งนี้กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 2/10 มีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 3/10 อายุประมาณ 14 เดือน ขนาดโครงการ 1,500 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือในตราสารหนี้สถาบันการเงิน เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน
ขณะเดียวกันกองทุนอาจจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในกิจการที่มีความมั่นคง มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตัวตราสาร และหรือผู้ออกตราสาร ตั้งแต่ A- ขึ้นไป ณ วันที่ลงทุน ส่วนที่เหลือ ลงทุนในเงินฝาก และหรือการทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้กับสถาบันการเงิน และหรือในหลักทรัพย์และหรือทรัพย์สินอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดให้ลงทุนได้
ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 1/10 ที่ได้เริ่มเปิดขายไอพีโอไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก เป็นผลทำให้ขนาดกองทุนที่เสนอขายเต็มจำนวนแล้ว ในวันที่ 25 มกราคม 2553 บริษัทจัดการจึงขอประกาศแจ้งปิดการเสนอขายกองทุนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2553 เป็นต้นไป เพื่อบริษัทจักได้นำไปจดทะเบียนกองทุนรวมกับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวอายุประมาณ 6 เดือน และขนาดโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งกองทุนมีนโยบายกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ หรือตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ หรือตราสารแห่งหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป
ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ อนึ่ง การลงทุนในประเทศจะเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะเป็นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝากที่มีอายุของตราสารหรือสัญญาหรือระยะเวลาการฝากเงินไม่เกินหนึ่งปี หรือลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้