xs
xsm
sm
md
lg

"ทิสโก้"ปันผล2กองทุนหุ้น มั่นใจปีเสือดัชนีปรับขึ้นอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ทิสโก้ประเดิมปีเสือจ่ายปันผล 2 กองหุ้นรวมกันเกือบ 1.50 บาทต่อหน่วย "ธีรนาถ"ระบุเป็นอานิสงส์จากผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา พร้อมคาดหุ้นไทยปีนี้จะยังคงขยายตัวอยู่ในกรอบ 800-850 จุด จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเงินทุนไหลเข้าในภูมิภาคเอเชีย


รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทจำนวน 2 กองทุนได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุนปันผล และกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล สำหรับผลการดำเนินงาน รอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อ ณ วันที่ 15 มกราคม 2553

ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุนปันผล จะทำการจ่ายปันผลในอัตราหน่วยละ 1.10 บาท ส่วนกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล จะทำการจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท โดยทั้ง 2 กองทุนจะทำการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนพร้อมกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553

ด้าน นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการบลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้มาจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของปี 2552 ส่วนแนวโน้มหุ้นไทยในปีนี้เชื่อว่ายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกและน่าจะอยู่ในกรอบประมาณ 800-850 จุด เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้คาดว่าผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยเองก็ยังอยู่ในอัตราที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน จึงน่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

"ปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานกองหุ้นดีขึ้นมาก โดยมาจากปัจจัย 2เรื่องด้วยกันคือ ในแง่ของผลกำไรจากบริษัทจดทะเบียน และการปรับตัวดีขึ้นของราคาหุ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงไปเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกที่ในปีที่ผ่านมาจะมีการรีบาวน์กลับมาบ้าง"นายธีรนาถกล่าว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในปีนี้ นายธีรนาถ คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนน่าจะยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจคือประมาณ 15-20% โดยจะมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ดีต่อจากปีที่แล้ว แต่ในส่วนผลกำไรจากการปรับตัวของราคาหุ้นคงน้อยลง โดยการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงครึ่งปีแรกยังเป็นโอกาสที่น่าสนใจของนักลงทุน เนื่องจากเชื่อว่าธนาคาแห่งประเทศไทยคงจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้

ส่วนในครึ่งปีหลังราคาหุ้นอาจจะมีการปรับฐานลงมาเล็กน้อย เนื่องจากเป็นไปได้ว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ส่งผลให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลในระยะสั้น

"บริษัทไทยกำไรดีมาอย่างสม่ำเสมอไม่ค่อยน่าวิตก ส่วนเรื่องมาบตาพุดเองก็คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง แต่อย่างไรมันก็สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้วระดับหนึ่งก่อนหน้านี้ ขณะที่เรื่องการแก้กฎหมายต่างๆ ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา แต่เชื่อว่าจากสภาพคล่องของเงินทุนไหลเข้าจะส่งผลให้หุ้นไทยและหุ้นในภูมิภาคนี้สามารถปรับตัวขึ้นได้อีก"นายธีรนาถกล่าว

นายธีรนาถ กล่าวต่อว่า แผนการออกกองทุนหุ้นของบลจ.ทิสโก้ ในปีนี้ ยังคงเน้นเรื่องผลการดำเนินงานมากกว่าว เพราะเชื่อว่าจำนวนและรูปแบบกองทุนหุ้นที่บริษัทมีอยู่น่าจะครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น