บลจ.อเบอร์ดีน เผย ยิลด์กองจีน ยังสดใส หลังเศรษฐกิจมังกรยังแข็งแกร่งจากภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว ขณะเดียวกัน หุ้นที่เข้าไปถืออยู่ ผลประกอบการไปได้สวย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน รายงานภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนในเดือนธันวาคม 2552 ที่ผ่านมาว่า ดัชนี เอ็มเอสซีไอ จงหวา ปรับตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับเกณฑ์ในการดำรงทุนสำรองของธนาคารพาณิชย์ของจีนที่ปรับให้สูงขึ้นและปัญหาหนี้สินของรัฐดูไบก็ตาม แรงหนุนจิตวิทยาในตลาดมาจากข่าวเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยและภาวะสภาพคล่องที่มีเสถียรภาพ
ดังนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดัชนีภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกของจีนเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนยังคงเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจธนาคารของจีนเรียกร้องให้ธนาคารพิจารณาระดับหนี้สินของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก่อนที่จะปล่อยกู้ให้บริษัทเหล่านี้ ในทางกลับกัน ยอดสินเชื่อรายใหม่เติบโตช้าลง หลังจากที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้
สำหรับบริษัทต่างๆที่อเบอร์ดีนถือหุ้นอยู่ ต่างรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ดี ท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดย จาร์ดีน สเตรทติจิค รายงานการค้าล่าสุดแสดงถึงตัวเลขในทุกส่วนของกิจการมีการปรับตัวดีขึ้นด้าน คอนวีเนียนซ์ รีเทล เอเชีย และ คาเฟ่ เดอ โครัล มีแรงหนุนจากการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวดมากขึ้น
ขณะที่ ยานลอร์ด มีปัจจัยบวกจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นและราคาขายที่สูงขึ้นในโครงการที่อยู่อาศัย ทางด้าน ไชน่า โมบายล์ มีลูกค้าที่สมัครใช้บริการเพิ่มขึ้น 5.1 ล้านรายในเดือนตุลาคม ทำให้ยอดผู้ใช้บริการรวมสูงถึง 513 ล้านราย และ สไวร์ แปซิฟิค อาจจะให้บริษัทย่อย สไวร์ พร็อพเพอร์ตี เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ ทางอเบอร์ดีนเริ่มเข้าซื้อหุ้นของ ซัน ฮุง ไค พร็อพเพอร์ตี้ส์ (SHKP) ในปี 2545 และได้ถือหุ้นนี้มาตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา SHKP เป็นตราสินค้าที่โด่งดังและมีชื่อเสียงดีด้านคุณภาพ
ทำให้บริษัทสามารถตั้งราคาขายได้สูงกว่าตลาด ดังนั้นจึงสามารถทำกำไรและสร้างผลตอบแทนจากการพัฒนาโครงการได้มากกว่าคู่แข่ง ด้วยความที่เป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในฮ่องกง SHKP มีพอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในหลายระดับ ทำให้มีรายได้จากค่าเช่ามากและสูงขึ้น ซึ่งน่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป
เนื่องจากมีอีกหลายโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังทยอยเสร็จสิ้นลง นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีที่ดินในจีนที่ซื้อสะสมไว้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในนครใหญ่อันดับหนึ่งสี่แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และ เซินเจิ้น รายได้จากหลายๆกิจการของตนในจีนแผ่นดินใหญ่คาดว่าจะยิ่งขยายตัวมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน Aberdeen China Gateway Fund ณ วันที่ 8 มกราคม 2553 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ อยู่ที่ 4.73% เทียบกับดัชนี MSCI Zhong Hua Index อยู่ที่ 5.88% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.54% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 6.05%
