บลจ.อยุธยา คลอดกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ รับปีเสือดุ ชูจุดขายเศรษฐกิจจีนขยายตัวโดดเด่น ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง และมีศักยภาพในระยะยาว เปิดขายไอพีโอ 15-27 มกราคมนี้
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะเสนอขายกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 15-27 มกราคมนี้ โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนชื่อ Hang Seng H-Share ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่อ้างอิงกับการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI)
ทั้งนี้ กองทุน Hang Seng H-Share ETF เป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดที่มีมาตรฐานสูงในการคัดเลือกบริษัทและตราสารเข้าจดทะเบียน โดยกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินฮ่องกงดอลล่าร์ ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในประเทศจีนได้มากที่สุด ปัจจุบันมีขนาดสินทรัพย์ 1,850 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับ Top 10 ของ กองทุน ETF ในตลาด Asia Pacific ex-Japan มีสภาพคล่องสูง และไม่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือตราสารอนุพันธ์ใดๆ
นอกจากนี้ ยังมีประวัติการเปลี่ยนแปลงราคาของหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง HSCEI มากที่สุด ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพดีของประเทศจีน
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา กล่าวว่า ความน่าสนใจของการลงทุนในประเทศจีน มีอยู่ 3 ประการด้วยกัน คือ เศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตอย่างโดดเด่น มีการฟื้นตัวจากวิกฤตอย่างเข้มแข็ง และยังมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา จีนเองมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8-12% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในโลก
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทเลือกลงทุนในตลาด H-Share เนื่องจากมองว่าเป็นการช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ เพราะข้อจำกัดของการลงทุนจะน้อยกว่าการลงทุนในตลาด A-Share นอกจากนี้ ยังไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิตด้วย
สำหรับกองทุนหลักที่เราเข้าไปลงทุน ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินเป็นหลัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กองทุนหลักดังกล่าวให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงโดยตลอด โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 147% ในขณะที่ผลตอบแทนในรอบ 3 ปีอยู่ที่ 17% และผลตอบแทนย้อนหลังรอบ 1 ปี อยู่ที่ 56%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 15-27 มกราคม 2552 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท โดยบริษัทได้มอบโปรโมชั่นพิเศษให้สำหรับนักลงทุนที่ เมื่อลงทุนทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับเงินเงินคืน 100 บาทด้วย
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะเสนอขายกองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ (AYFCHINA) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 15-27 มกราคมนี้ โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนชื่อ Hang Seng H-Share ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่อ้างอิงกับการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI)
ทั้งนี้ กองทุน Hang Seng H-Share ETF เป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดที่มีมาตรฐานสูงในการคัดเลือกบริษัทและตราสารเข้าจดทะเบียน โดยกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินฮ่องกงดอลล่าร์ ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในประเทศจีนได้มากที่สุด ปัจจุบันมีขนาดสินทรัพย์ 1,850 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับ Top 10 ของ กองทุน ETF ในตลาด Asia Pacific ex-Japan มีสภาพคล่องสูง และไม่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือตราสารอนุพันธ์ใดๆ
นอกจากนี้ ยังมีประวัติการเปลี่ยนแปลงราคาของหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง HSCEI มากที่สุด ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพดีของประเทศจีน
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา กล่าวว่า ความน่าสนใจของการลงทุนในประเทศจีน มีอยู่ 3 ประการด้วยกัน คือ เศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตอย่างโดดเด่น มีการฟื้นตัวจากวิกฤตอย่างเข้มแข็ง และยังมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา จีนเองมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8-12% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในโลก
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทเลือกลงทุนในตลาด H-Share เนื่องจากมองว่าเป็นการช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ เพราะข้อจำกัดของการลงทุนจะน้อยกว่าการลงทุนในตลาด A-Share นอกจากนี้ ยังไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิตด้วย
สำหรับกองทุนหลักที่เราเข้าไปลงทุน ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินเป็นหลัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กองทุนหลักดังกล่าวให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงโดยตลอด โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 147% ในขณะที่ผลตอบแทนในรอบ 3 ปีอยู่ที่ 17% และผลตอบแทนย้อนหลังรอบ 1 ปี อยู่ที่ 56%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดอยุธยาไชน่าอิควิตี้ จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 15-27 มกราคม 2552 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท โดยบริษัทได้มอบโปรโมชั่นพิเศษให้สำหรับนักลงทุนที่ เมื่อลงทุนทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับเงินเงินคืน 100 บาทด้วย