บลจ.ทหารไทย ขาย 3 กองโรลโอเวอร์ อายุ 3 เดือน (รุ่นที่ 3) 6 เดือน (รุ่นที่ 6 )และ 1ปี (รุ่นที่ 12) เปิดขายถึง25 ธันวาคมนี้ คาด ปีหน้ากองโรลโอเวอร์ดีขึ้น เพราะต้องรองรับเงินจากกองบอนด์เกาหลีใต้ที่ครบอายุ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเปิดขาย กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรอายุ 3 เดือน (รุ่นที่ 3) มูลค่ากองทุน 10,000 ล้านบาท อายุ 6 เดือน (รุ่นที่ 6) มูลค่า 5,000 ล้านบาท และ อายุ 1 ปี (รุ่นที่ 12) มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยจะทำการเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 -25 ธันวาคม 2552
ทั้งนี้ ตราสารที่บริษัทเลือกลงทุนนั้น แบ่งเป็น ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 เดือน (รุ่นที่3) ซึ่งมีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.22% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 0.90% ต่อปี ขณะที่ ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 6 เดือน (รุ่นที่6) มีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.35% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.00% ต่อปี และ ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 1ปี (รุ่นที่12) มีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.54% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.20% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน (รุ่น 3) 6 เดือน (รุ่นที่ 6) และ 1 ปี (รุ่นที่ 12) นั้น มีนโยบายการลงทุน เหมือนกันคือ เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงินภาครัฐ ในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ขณะที่ เงินส่วนที่เหลือ กองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
นายธีระศันส์ ทุติยะโพธิ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้มีเงินทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนโรลโอเวอร์ค่อนข้างน้อย แค่คาดว่าในปี 2553 น่าจะกลับมาขายได้มากขึ้น เนื่องจากในปีหน้ากองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในเกาหลีใต้จะครบอายุจำนวนมาก ซึ่งจะต้องหาสินทรัพย์ใหม่รองรับเงินทุนที่จะกลับมา ซึ่งทำให้กองทุนโรลโอเวอร์น่าจะกลับมาขายได้มากขึ้นกว่าในปีนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเปิดขาย กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรอายุ 3 เดือน (รุ่นที่ 3) มูลค่ากองทุน 10,000 ล้านบาท อายุ 6 เดือน (รุ่นที่ 6) มูลค่า 5,000 ล้านบาท และ อายุ 1 ปี (รุ่นที่ 12) มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยจะทำการเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 -25 ธันวาคม 2552
ทั้งนี้ ตราสารที่บริษัทเลือกลงทุนนั้น แบ่งเป็น ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 เดือน (รุ่นที่3) ซึ่งมีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.22% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 0.90% ต่อปี ขณะที่ ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 6 เดือน (รุ่นที่6) มีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.35% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.00% ต่อปี และ ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนคารแห่งประเทศไทย อายุ 1ปี (รุ่นที่12) มีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.54% ต่อปี และมีผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.20% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน (รุ่น 3) 6 เดือน (รุ่นที่ 6) และ 1 ปี (รุ่นที่ 12) นั้น มีนโยบายการลงทุน เหมือนกันคือ เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงินภาครัฐ ในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ขณะที่ เงินส่วนที่เหลือ กองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
นายธีระศันส์ ทุติยะโพธิ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้มีเงินทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนโรลโอเวอร์ค่อนข้างน้อย แค่คาดว่าในปี 2553 น่าจะกลับมาขายได้มากขึ้น เนื่องจากในปีหน้ากองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในเกาหลีใต้จะครบอายุจำนวนมาก ซึ่งจะต้องหาสินทรัพย์ใหม่รองรับเงินทุนที่จะกลับมา ซึ่งทำให้กองทุนโรลโอเวอร์น่าจะกลับมาขายได้มากขึ้นกว่าในปีนี้