xs
xsm
sm
md
lg

จ่อขอ ธปท.เพิ่มวงเงิน FIF

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ก.ล.ต ชี้.แนวโน้มการลงทุนเอฟไอเอฟ เติบโตก้าวกระโดด หลังเห็นสัญญาณการขอตั้งกองทุนอีกกว่า 6-7 พันล้านเหรียญสรัฐฯ จากก่อนหน้าที่ซบเซาลงเพราะสถาบันการเงินต่างแดนประสบปัญหา ยืนยันจับตาอย่างใกล้ชิด หากวงเงินถูกใช้จริงถึง 70-75% เตรียมขอเพิ่มวงเงินจากแบงก์ชาติรองรับการลงทุนในอนาคต “ประเวช” ชี้ ผลตอบแทนการลงทุนต่างแดนยังอยู่ในอัตราที่สูง ล่าสุดมี เม็ดเงินออกไปลงทุนจริงแล้ว 1.6 หมื่นล้านเหรียญ จากที่ได้จัดสรรไป 2.2-2.3 หมื่นล้านเหรียญ

นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ( FIF) จะเติบโตมากขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากที่มีการหยุดการลงทุนในช่วงที่สถาบันการเงินของสหรัฐฯประสบปัญหาขาดทุน ซึ่งขณะนี้การลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาดีมากขึ้น ทำให้ตอนนี้มีกองทุนที่อยู่ระหว่างการขอจัดตั้งกองทุนเพื่อระดมเงินจากนักลงทุนในการไปลงทุนต่างประเทศอีกประมาณ 6,000-7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

“ขณะนี้การลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาแล้ว เพราะมีบลจ.ขอยื่นจัดตั้งกองอยู่ มูลค่า 6-7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และรอขายต่อนักลงทุนไทยเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการหยุดการลงทุนจากการที่เลห์แมนบราเธอร์ประสบปัญหาทางการเงิน โดยเชื่อว่าแนวโน้มการลงทุนดังกล่าวจะโตมากขึ้นแบบก้าวกระโดด”นายประเวช กล่าว

ที่ผ่านมามีเม็ดเงินออกไปลงทุนจริงในต่างประเทศแล้ว 16,000 ล้านเหรียญ จากที่ก.ล.ต.ได้มีการจัดสรรวงเงินให้ไปแล้ว จำนวน 22,000 -23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการไปลงทุนต่างประเทศ90% จะเป็นการลงทุนในพันธบัตร ซึ่ง ก.ล.ต.ได้มีการติดตามในเรื่องการไปลงทุนต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยหากมีการใช้วงเงินไปลงทุนจริงในต่างประเทศถึงระดับ 70-75%ของวงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)อนุมัติไว้ที่30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก.ล.ต.จะมีการขอวงเงินเพิ่ม จากธปท.

ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับการที่จะมีบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ในลักษณะจดทะเบียน2 ตลาด (ดูอัลลิสต์ติ้ง)และการที่บริษัทหลักทรัพย์(บล..)และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)จะไปลงทุนต่างประเทศเพื่อบัญชีของบริษัท

ส่วนการลงทุนของนักลงทุนไทยไปลงทุนซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ นายประเวช ยอมรับว่า ยังมีสัดส่วนที่ต่ำอยู่ ซึ่งก.ล.ต.ได้มีการอนุญาต ให้บล.ต่างประเทศแนะนำการลงทุนแก่นักลงทุนไทยแต่จะต้องร่วมมือกับบล.ไทยในการดำเนินการดังกล่าว

นายประเวช กล่าวว่า การให้เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ของโบรกเกอร์ต่างประเทศเข้ามาให้ความรู้กับนักลงทุนได้นั้น จะทำให้นักลงทุนไทยมีความรู้และข้อมูลการไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น และสามารถที่จะทำให้ไปลงทุนเองได้โดยผ่านบล.ไทย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนลดค่าใช้จ่ายในการจ้างบลจ.บริหารการลงทุนในต่างประเทศให้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเปิดให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศได้ โดยมีหุ้นต่างประเทศขั้นต่ำประมาณ 20 ประเทศที่นักลงทุนไทยสามารถเข้าไปลงทุนได้

นอกจากนี้ยังสามารถลงทุนในดัชนีหุ้นต่างประเทศ พันธบัตร ทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ีอกด้วย

สำหรับผลตอบแทนจากการไปลงทุนต่างประเทศที่ผ่านมานั้น พบว่าให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจาก การที่อัตราดอกเบี้ยไทยอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรของประเทศเกาหลีจ่ายดอกเบี้ยอัตรา 4% ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการจ่ายดอกเบี้ย 2-3% แต่ก็ยังคงให้ผลตอบแทนที่สูง โดยการไปลงทุนต่างประเทศนั้นถือว่าเป็นการให้ผลตอบแทนที่สูงอยู่ตราบใดที่นักลงทุนสามารถที่จะยอมรับความเสี่ยงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น