บลจ.ไทยพาณิชย์คลอดกองทุน 3 รูปแบบ ทั้งหุ้นกู้เอกชน พันธบัตรรัฐบาลไทย และเกาหลีใต้ รองรับความต้องการของนักลงทุน พร้อมเปลี่ยนผลตอบแทนกองทุนหุ้นหู้เอกชนแบบขั้นบันได มาเป็นคงที่ 4%ต่อปีแทน เปิดไอพีโอพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ - 30 พ.ย.นี้ ด้าน ทหารไทย จับลูกค้าบอนด์เกาหลี ชูทางเลือกล็อกเงิน 6 เดือนและ 1 ปี
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนใหม่จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 5Y6M3 (SCBFI5Y6M3) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 5 ปี 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพดี กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M18 (SCBGB3M18) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ฟอร์เรน โนท 3M7 (SCBFRN3M7) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 5Y6M3 ยังคงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพดีที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS Rating ในระดับ A ถึง A+ อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ (มหาชน) จำกัด , บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ (มหาชน) จำกัด , บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (มหาชน) จำกัด และบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด
แต่จะมีการปรับเปลี่ยนอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นขั้นบันไดมาเป็นผลตอบแทนแบบคงที่ 4%ต่อปี เพื่อตอบรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนในรูปแบบดังกล่าว เพราะว่ากองทุนไม่ได้มีการตีราคา (มาร์ก ทู มาร์เก็ต) อยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน หันมาออกกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประเมินว่าจะสามารถออกกองทุนประเภทนี้ได้เพียง 4 กองทุน อายุโครงการประมาณ 5 ปี 6 เดือน และมีมูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท
โดยจะทยอยออกกองทุนนี้ทุกสัปดาห์ ซึ่งกองทุนที่ 4 ที่จะออกต่อจากกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 5Y6M3 จะมีการให้ผลตอบแทนแบบคงที่ 4%ต่อปีเช่นกัน แต่จะไม่ออกกองทุนหุ้นกู้เอกชนอายุโครงการประมาณ 3 ปี เพราะว่าไม่มีการออกหุ้นกู้อายุดังกล่าวในตลาดแล้ว
นางโชติกา กล่าวว่า บริษัทยังคงออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และกองทุนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้จะมีทั้งแบบ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนต่อไป แม้ว่าผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวจะลดลงไป และระดมทุนได้น้อยลงกว่าเดิม เพราะว่าความต้องการจากนักลงทุนลดลงไปก็ตาม
นอกจากนี้ กองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือนจะได้รับสิทธิพิเศษ เมื่อครบกำหนดอายุโครงการแล้ว จะสามารถฝากเงินกับธนาคารไทยพาณิชย์และได้รับอัตราดอกเบี้ยสุงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ 1%ต่อปี ส่วนกองพันธบัตรรัฐบาลไทย และกองทุนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ที่มีอายุโครงการมากกว่านี้จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว
ด้านนายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิดพันธบัตรเกาหลีใต้พร้อมกันอีก 2 รุ่น ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. จนถึง 1 ธ.ค. ศกนี้ โดยมีมูลค่าทั้ง 2 กองทุนรวม 2,000 ล้านบาท ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 44 อายุประมาณ 6เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และ กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 45 อายุประมาณ 1 ปี มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดยสามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A+/ F1 จากสถาบัน Fitch Rating พร้อมการแปลงเงินลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินบาทเต็มจำนวนจึงไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยให้ผลตอบแทนการลงทุนภายหลังหักค่าใช้จ่าย รุ่น 6 เดือน อยู่ที่ประมาณ 1.50 % ต่อปี และรุ่น 1 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 2.10% ต่อปี