บลจ.ธนชาต เร่งสปีดทำยอด AUMโต 100,000 ล้าน งัดเเผนเด็ดก่อนสิ้นปี ออกกองทุนบอนด์เกาหลีต่อเนื่อง อัดโปรโมชั่น LTF-RMF เอาใจมนุษย์เงินเดือน พร้อมส่งกองทุน T-MAP ชูจุดเด่นกองทุนช่วยลดความเสี่ยงเเละให้ผลตอบเเทนที่ดีในอนาคต เตรียมเปิดไอพีโอได้ในเดือนพ.ย.นี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ณ วันที่ 30 กันยายน อยู่ที่ 93,488 ล้านบาท โดยเเบ่งเป็นกองทุนรวม 80,083 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล หรือ Private fund 9,129 ล้านบาท เเละกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (provident fund) 4,267 ล้านบาท ทั้งนี้เราได้ตั้งเป้าAUM ของปีนี้ไว้ที่ 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนที่เหลือต่อจากนี้เเราจะมีกองทุนพันธบัตรเกาหลีเปิดขายต่อไปอีก เเต่ต้องยอมรับว่าความต้องการของลูกค้าเริ่มปรับลดลงหลังจากที่ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อกองทุนดังกล่าวไปเป็นจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้กระเเสกองทุนพันธบัตรเกาหลีเริ่มเเผ่วลงในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามทางบลจ.มีเเผนที่จะให้ความรู้การลงทุนกับนักลงทุนในเเง่การลงทุนที่เหมาะสมในช่วงนี้ว่าควรจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอะไรให้มากขึ้นเพื่อให้ผลตอบเเทนที่ดีในอนาคต พร้อมกับในเดือนพฤศจิกายนนี้ บลจ.จะออกกองทุนเปิดธนชาต Multi Asset Portfolio (T-MAP)ที่เป็นกองทุนรวมต่างประเทศ( FIF) ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนFIF กองเเรกในรอบ2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับออกโปรโมชั่นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
"เราตั้งเป้า AUM ไว้ที่ 9 หมื่นล้าน ตอนนี้ขาดอีกอยู่ 6 พันล้าน ซึ่งเชื่อว่าเราน่าจะทำตามยอดที่เราวางไว้ได้ โดยเเผนที่เราวางไว้คือ ออกกองทุนพันธบัตรเกาหลีต่อไปเรื่อยๆ เปิดไอพีโอกองทุน T-MPA เเละโปรโมชั่นRMFเเละLTF น่าจะเพิ่มยอด AUM จำนวนหนึ่ง ส่วนอีกจำนวนหนึ่งเราจะให้ความรู้การลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อรับผลตอบเเทนทีดีในอนาคต"นายบุญชัย กล่าว
ทางด้านนายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต กล่าวถึงสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันว่า เศรษฐกิจโลกผ่านจุดเลวร้ายที่สุดแล้วซึ่งต่อจากนี้การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างเชื่องช้างและอาจใช้เวลา โดยอาจไม่มีภาพการเติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนเศรษฐกิจขาขึ้นในรอบที่แล้ว ซึ่งไตรมาส 3-4 ปีนี้ เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นเร็วจากผลของมาตรการภาครัฐบาลของประเทศต่าง ๆ โดยมีเม็ดเงินมหาศาลที่อันฉีดเข้าสู่ระบบพร้อมกันทั่วโลก ทำให้ชะลอการว่างงานและพยุงสภาพเศรษฐกิจไว้ได้ระดับหนึ่ง ประกอบกับสต๊อก สินค้าเริ่มลดลงมากในไตรมาส 1-2 ที่ผู้ประกอบพร้อมใจกันลดกำลังการผลิตลง
"ปีหน้าความเร็วของการฟื้นตัวน่าจะแผ่วลง เพราะปัญหาของแต่ละประเทศของวิกฤติครั้งนี้ยังมีมากมายที่ต้องแก้ไข ข่าวดี คือ คาดว่ารัฐบาลประเทศต่างๆ จะยังคงมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เอกชนก็คงยังมีโอกาสยืนฟื้นตัว เพราะต้นทุนดอกเบี้ยยังน่าจะต่ำ" นายตระกูลจิตรกล่าว
อย่างไรก็ตามนักลงทุนเริ่มเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามหลักในโลกการลงทุน ที่เห็นว่ามีแนวโน้มดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น หุ้น ทั้งหุ้นในประเทศและต่างประเทศ ปัจจัยหนุนหลัก คือ การฟื้นตัวของผลประกอบการตามเศรษฐกิจ นอกจากนี้ก็มีตราสารหนี้ เน้นตราสารหนี้ต่างประเทศที่ลงทุนในสกุลเงินหลายสกุลเงินโดยเฉพาะสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนา โอกาสของการลงทุนจะอยู่ที่ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากค่าเงินที่แข็งค่า ขณะเดียวกัน สินค้าโภคภัณฑ์ก็น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น ตามวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นหมวดการลง ทุนที่ช่วยลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ รวมถึงทองคำ เป็นหมวดการลงทุนที่ช่วยป้องกันเงินเฟ้อ และลดผลกระทบจากความเสี่ยงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อาจจะอ่อนตัวลง
ขณะเดียวกันระหว่างทางของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรอบนี้ยังมีปัจจัยเปราะบางที่เกิดขึ้น ทำให้การลงทุนย่อมมีการผันผวนขึ้นลง แต่แนวโน้มระยะยาวยังมีโอกาสดี การลงทุนแต่ละหมวดสินทรัพย์ข้างต้น แม้อาจจะมีความผันผวนขึ้นลงระหว่างทางดังได้กล่าวแล้ว แต่การปรับตัวขึ้นลงอาจจะไม่พร้อมกัน หรือไม่ใช่ทางเดียวกัน การลงทุนผสมหลายๆ หมวดสินทรัพย์ ที่มีการเคลื่อนไหวขึ้นลง ไม่ไปในทางเดียวกันทั้งหมด จะช่วยคานกันเอง และมีโอกาสลดความผันผวนโดยรวมของเงินลงทุนได้ด้วย ส่วนประเด็นที่สำคัญในการลงทุนคือ ต้องให้ความใส่ใจกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะมีความไม่แน่นอนอยู่หลายปัจจัย ต้องมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
สำหรับลักษณะกองทุนเปิดธนชาต Multi Asset Portfolio (T-MAP) นั้นจะเป็นการลงทุนในรูปเเบบFund of Funds คือ ลงทุนในกองทุนต่างประเทศหลายกองทุน โดยกรอบการลงทุนจะเกี่ยวข้องกับประเภทสินทรัพย์ (Asset Classes) หลากหลายประเภท เช่น หุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งการลงทุนในรูปเเบบดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนดีในแต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากัน เป็นการเปิดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากกลุ่มสินทรัพย์ที่หลากหลาย และช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้กองทุนT-MPA จะลงทุนกองทุนที่บริหารงานเเบบ Active funds และ Passive funds เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงเเละให้ผลตอบเเทนที่ต่างกันในช่วงเวลาเดียวกัน ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนนั้น กองทุนจะพิจารณาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยกองทุนดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะเปิดขายไอพีโอได้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้
" แนวคิดการกระจายการลงทุนของ T-MAP จะเน้นการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสและช่องทางสร้างผลตอบแทน ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนน้ำหนักตามสภาพเศรษฐกิจและตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงไป" นายตระกูลจิตรกล่าว