ลจ.วรรณ ชี้นักลงทุนควรติดตามข่าวสารภาพรวมเศรษฐกิจเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุน แนะนักลงทุนเลือกลงทุนในTDEX-TFTSE คู่หูอีทีเอฟเพื่อเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงแทนการลงทุนหุ้นรายตัว
นาย มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในอีทีเอฟว่า การลงทุนขณะนี้ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลหุ้นหรือลงทุนหุ้นรายตัว
โดยนักลงทุนควรที่ต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจในอนาคตน่าจะมีทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุน และเลือกลงทุนตามสัดส่วนของอีทีเอฟที่เหมาะสม เช่น ถ้าคิดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าจะมีผลประกอบการที่ดีก็สามารถเลือกลงทุนใน TFTSE ได้ หรือถ้าคิดว่าราคาน้ำมันจะปรับสูงขึ้นก็สามารถลงทุนในTDEX ได้
ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนประเภทอีทีเอฟถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุน โดยหากนักลงทุนที่ไม่อยากเสี่ยงที่จะเลือกลงทุนหุ้นผิดตัวสามารถใช้ประโยชน์จากอีทีเอฟซึ่งมีลักษณะของตะกร้าหุ้นได้ อย่างเช่น กองทุน ThaiDEX FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ทีฟุตซี่) ซึ่งจะมีน้ำหนักของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่เยอะพอสมควร ถ้านักลงทุนที่อยากจะกระจายความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นก็สามารถใช้อีทีเอฟเป็นเครื่องมือในการลงทุนได้
สำหรับกองทุนอีทีเอฟในปัจจุบันที่บลจ.วรรณ บริหารจัดการอยู่มี 2 กอง คือ กองทุนเปิดThaiDEX SET50 ETF: TDEX (ทีเด็กซ์) และ กองทุนเปิดThaiDEX FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ทีฟุตซี่) ซึ่งทั้งสองกองมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน คือ TDEX นั้นจะเน้นน้ำหนักไปที่หลักทรัพย์กลุ่มพลังงาน ส่วน TFTSE จะเน้นน้ำหนักไปที่กลุ่มของธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากตะกร้าหุ้นทั้งสองนี้ได้ ซึ่งการซื้อขายนั้นก็เหมือนกับหุ้นหนึ่งตัว
ทั้งนี้นายมนรัฐ ได้ย้ำว่า การลงทุนในหุ้นนั้นยังคงมีความเสี่ยง แต่การลงทุนในอีทีเอฟนั้นสามารถกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุนได้เนื่องจากการลงทุนในอีทีเอฟเช่น TFTSE จะเหมือนกับลงทุนในหลักทรัพย์ถึง 30 ตัว หรือ ลงทุนใน TDEX จะเหมือนกับลงทุนหุ้นใน SET50 ถึง 50 ตัว
นาย มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในอีทีเอฟว่า การลงทุนขณะนี้ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลหุ้นหรือลงทุนหุ้นรายตัว
โดยนักลงทุนควรที่ต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจในอนาคตน่าจะมีทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุน และเลือกลงทุนตามสัดส่วนของอีทีเอฟที่เหมาะสม เช่น ถ้าคิดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าจะมีผลประกอบการที่ดีก็สามารถเลือกลงทุนใน TFTSE ได้ หรือถ้าคิดว่าราคาน้ำมันจะปรับสูงขึ้นก็สามารถลงทุนในTDEX ได้
ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนประเภทอีทีเอฟถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุน โดยหากนักลงทุนที่ไม่อยากเสี่ยงที่จะเลือกลงทุนหุ้นผิดตัวสามารถใช้ประโยชน์จากอีทีเอฟซึ่งมีลักษณะของตะกร้าหุ้นได้ อย่างเช่น กองทุน ThaiDEX FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ทีฟุตซี่) ซึ่งจะมีน้ำหนักของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่เยอะพอสมควร ถ้านักลงทุนที่อยากจะกระจายความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นก็สามารถใช้อีทีเอฟเป็นเครื่องมือในการลงทุนได้
สำหรับกองทุนอีทีเอฟในปัจจุบันที่บลจ.วรรณ บริหารจัดการอยู่มี 2 กอง คือ กองทุนเปิดThaiDEX SET50 ETF: TDEX (ทีเด็กซ์) และ กองทุนเปิดThaiDEX FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ทีฟุตซี่) ซึ่งทั้งสองกองมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน คือ TDEX นั้นจะเน้นน้ำหนักไปที่หลักทรัพย์กลุ่มพลังงาน ส่วน TFTSE จะเน้นน้ำหนักไปที่กลุ่มของธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากตะกร้าหุ้นทั้งสองนี้ได้ ซึ่งการซื้อขายนั้นก็เหมือนกับหุ้นหนึ่งตัว
ทั้งนี้นายมนรัฐ ได้ย้ำว่า การลงทุนในหุ้นนั้นยังคงมีความเสี่ยง แต่การลงทุนในอีทีเอฟนั้นสามารถกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุนได้เนื่องจากการลงทุนในอีทีเอฟเช่น TFTSE จะเหมือนกับลงทุนในหลักทรัพย์ถึง 30 ตัว หรือ ลงทุนใน TDEX จะเหมือนกับลงทุนหุ้นใน SET50 ถึง 50 ตัว
