รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้เปิดขายกองทุนรวมซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M3 ไปเมื่อวันที่ 9 - 16 กันยายน 2552 และกองทุนรวมซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M2 ไปเมื่อวันที่ 1 - 8 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ 2 กองทุนสามารถระดมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยกองทุนรวมซีมิโก้ ตราสารหนี้ 4M3 สามารถจะดมทุนได้ประมาณ 199.44 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M2 สามารถจะดมทุนได้ประมาณ 399.79 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนรวมซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M3 ได้เข้าไปลงทุนในตั๋วแลกเงินของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 20.26% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เอเชียเสริมกิจ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) 20.15% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 20.00% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 18.47% , และหุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 18.47% รวมทั้งสิ้นเป็น 100% และกองทุนดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 1.94% ต่อปี นอกจากนี้กองทุนจะทำการซื้อขายคืนหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 19 - 25 มกราคม 2553
ขณะที่กองทุนซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M2 ได้เข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 19.89% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเมนท์ ลีสซิ่ง จำกัด 17.37% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 17.27% , ตั๋วแลกเงินบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 12.15% และตั๋วแลกเงินระยะสั้นของบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) 9.95% โดยกองทุนคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ประมาณอยู่ที่ 2% ขณะเดียวกันกองทุนจะเริ่มทำการซื้อขายหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 5 - 11 มกราคม 2553
สำหรับทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจาการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเป็นการลงทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจไถ่ถอนการลงทุนหรือลงทุนต่อได้ทุก ๆ ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือภาคเอกชนที่มีคุณภาพหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อนุญาต หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่เข้าไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและในตราสารที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
ทั้งนี้ กองทุนรวมซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M3 ได้เข้าไปลงทุนในตั๋วแลกเงินของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 20.26% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เอเชียเสริมกิจ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) 20.15% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 20.00% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 18.47% , และหุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 18.47% รวมทั้งสิ้นเป็น 100% และกองทุนดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 1.94% ต่อปี นอกจากนี้กองทุนจะทำการซื้อขายคืนหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 19 - 25 มกราคม 2553
ขณะที่กองทุนซีมิโก้ตราสารหนี้ 4M2 ได้เข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 19.89% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเมนท์ ลีสซิ่ง จำกัด 17.37% , ตั๋วแลกเงินของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 17.27% , ตั๋วแลกเงินบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 12.15% และตั๋วแลกเงินระยะสั้นของบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) 9.95% โดยกองทุนคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ประมาณอยู่ที่ 2% ขณะเดียวกันกองทุนจะเริ่มทำการซื้อขายหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันที่ 5 - 11 มกราคม 2553
สำหรับทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจาการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเป็นการลงทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจไถ่ถอนการลงทุนหรือลงทุนต่อได้ทุก ๆ ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือภาคเอกชนที่มีคุณภาพหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อนุญาต หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่เข้าไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและในตราสารที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
