"มาริษ" น้อมรับความผิดพลาด ระบุอนาคตจะเขียนหนังสือชี้ชวนให้ละเอียดรอบครอบ พร้อมเปิดเวทีชี้เเจงผู้ถือหน่วยกองทุนอสังหาฯทียูโดมปลายเดือนตุลาคมนี้ มั่นใจโครงการพลาซ่าเเละเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เสร็จสิ้นเดือนธันวาคมนี้เเน่นอน ส่วนบทลงโทษภาคทัณฑ์ 3 ปี ล่าสุดขอยื่นอุทธรณ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งภาคทัณฑ์นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ เป็นเวลา 3 ปี พร้อมปรับเงินอีก 231,750 บาท หลังบริหารกองทุนดังกล่าว บกพร่อง เเละไม่ทำตามหนังสือชี้ชวนโดยจ่ายค่าสิทธิการเช่าให้ผู้รับเหมาล่วงหน้า 5 งวด เป็นเงิน 808.4 ล้านบาทโดยไม่แจ้งผู้ถือหน่วยนั้น มีความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยนายมาริษได้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์กับก.ล.ต. โดยเรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในการพิจราณาของก.ล.ต
ขณะที่นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวถึงความคืบหน้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ ( TU-PF)ว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ทางบลจ.จะจัดการประชุมผู้ถือหน่วยกองทุนดังกล่าว เพื่อชี้เเจงพร้อมกับรายงานความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวด้วย โดยในส่วนของโครงการเอง เชื่อว่าช่วงเดือนธันวาคม ประมาณวันที่ 5 ธันวาคม 2552 นี้ โครงการดังกล่าวน่าจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะมีการจัดงานจุดเทียนชัยถวยพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้ารวมงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการที่ได้เริ่มไปเเล้วในเดือนมิถุนายน คือหอพักนักศึกษาเเละฟู๊ดเซ็นเตอร์ ที่ผ่านมีนักศึกษาเข้าพักเต็มทุกห้อง ทำให้ตอนนี้กองทุนมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์เเละพื้นที่ศูนย์การค้าน่าจะเปิดตัวได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้นจะห้องพักประมาณ 250 ห้องซึ่งราคาห้องพักเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเป้าหมายของลูกค้าเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้น จะเป็นนักศึกษาของมหาลัยเองหรือเป็นคนวัยทำงานเข้ามาพัก ในส่วนของพื้นที่ศูนย์การค้านั้นทางเราได้ว่าจ้างให้บริษัทเดอะ ซี ไออีเอ็น จำกัด เป็นผู้บริหารเเละบริหารพื้นที่ขายในส่วนดังกล่าว
ทั้งนี้ เราคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนในปี 2553 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบเเทนของกองทุนที่เราตั้งไว้ที่ 12% ต่อปี ภายใน 30 ปี ส่วนการลดค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนให้กับนักลงทุนนั้นทางเราจะยืดนโยบายดังกล่าวไปจนกว่าการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าจะเต็ม ซึ่งถือว่าเป็นการับผิดชอบของเรา
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนที่เราต้องเเก้ไข ทำให้ในอนาคตงข้างหน้า การเขียนหนังสือชี้ชวนโครงการต้องทำให้รัดกุมกว่าเดิม โครงการต้องชัดเจนมากขึ้น ให้ละเอียดมากขึ้น เพราะหลายเรื่องส่วนใหญ่เป็นการตีความ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดปัญหาเรื่องดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนเรื่องของการคาดโทษของก.ล.ต.จะมีผลกระทบต่อการเปิดกองทุนอสังหาฯใหม่ๆหรือไม่นั้น เราคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา" นายมาริษ กล่าว
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุน โดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าเกษตร มีขนาดกองอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท คาดว่าขั้นตอนในการดำเนินการ รวมถึงได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้และสามารถเปิดขายในเดือนตุลาคมนี้
ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ลงทุนในอาคารสำนักงานอีกกองทุนหนึ่งก็กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีขนาด1.8 พันล้านบาทเช่นนกัน โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 9% ในช่วงปีแรกและมี IRR อยู่ที่ประมาณ 10% อายุโครงการ 30 ปีอีกด้วย โดยกองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดระดมทุนได้ในช่วงต้นปี 2553 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งภาคทัณฑ์นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ เป็นเวลา 3 ปี พร้อมปรับเงินอีก 231,750 บาท หลังบริหารกองทุนดังกล่าว บกพร่อง เเละไม่ทำตามหนังสือชี้ชวนโดยจ่ายค่าสิทธิการเช่าให้ผู้รับเหมาล่วงหน้า 5 งวด เป็นเงิน 808.4 ล้านบาทโดยไม่แจ้งผู้ถือหน่วยนั้น มีความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยนายมาริษได้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์กับก.ล.ต. โดยเรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในการพิจราณาของก.ล.ต
ขณะที่นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวถึงความคืบหน้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ ( TU-PF)ว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ทางบลจ.จะจัดการประชุมผู้ถือหน่วยกองทุนดังกล่าว เพื่อชี้เเจงพร้อมกับรายงานความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวด้วย โดยในส่วนของโครงการเอง เชื่อว่าช่วงเดือนธันวาคม ประมาณวันที่ 5 ธันวาคม 2552 นี้ โครงการดังกล่าวน่าจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะมีการจัดงานจุดเทียนชัยถวยพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้ารวมงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการที่ได้เริ่มไปเเล้วในเดือนมิถุนายน คือหอพักนักศึกษาเเละฟู๊ดเซ็นเตอร์ ที่ผ่านมีนักศึกษาเข้าพักเต็มทุกห้อง ทำให้ตอนนี้กองทุนมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์เเละพื้นที่ศูนย์การค้าน่าจะเปิดตัวได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้นจะห้องพักประมาณ 250 ห้องซึ่งราคาห้องพักเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป โดยเป้าหมายของลูกค้าเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์นั้น จะเป็นนักศึกษาของมหาลัยเองหรือเป็นคนวัยทำงานเข้ามาพัก ในส่วนของพื้นที่ศูนย์การค้านั้นทางเราได้ว่าจ้างให้บริษัทเดอะ ซี ไออีเอ็น จำกัด เป็นผู้บริหารเเละบริหารพื้นที่ขายในส่วนดังกล่าว
ทั้งนี้ เราคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนในปี 2553 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบเเทนของกองทุนที่เราตั้งไว้ที่ 12% ต่อปี ภายใน 30 ปี ส่วนการลดค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนให้กับนักลงทุนนั้นทางเราจะยืดนโยบายดังกล่าวไปจนกว่าการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าจะเต็ม ซึ่งถือว่าเป็นการับผิดชอบของเรา
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนที่เราต้องเเก้ไข ทำให้ในอนาคตงข้างหน้า การเขียนหนังสือชี้ชวนโครงการต้องทำให้รัดกุมกว่าเดิม โครงการต้องชัดเจนมากขึ้น ให้ละเอียดมากขึ้น เพราะหลายเรื่องส่วนใหญ่เป็นการตีความ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดปัญหาเรื่องดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนเรื่องของการคาดโทษของก.ล.ต.จะมีผลกระทบต่อการเปิดกองทุนอสังหาฯใหม่ๆหรือไม่นั้น เราคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา" นายมาริษ กล่าว
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุน โดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าเกษตร มีขนาดกองอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท คาดว่าขั้นตอนในการดำเนินการ รวมถึงได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้และสามารถเปิดขายในเดือนตุลาคมนี้
ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ลงทุนในอาคารสำนักงานอีกกองทุนหนึ่งก็กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีขนาด1.8 พันล้านบาทเช่นนกัน โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 9% ในช่วงปีแรกและมี IRR อยู่ที่ประมาณ 10% อายุโครงการ 30 ปีอีกด้วย โดยกองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดระดมทุนได้ในช่วงต้นปี 2553 นี้