จันทบุรี - เทศบาลเมืองจันทบุรี เตรียมออกเทศบัญญัติจัดระเบียบการเลี้ยงนกนางแอ่นหลังพบข้อมูลมีการขอเช่าตึกทำเป็นตึกร้างใช้เลี้ยงนก หวั่นเมืองจันท์กลายเป็นเมืองร้าง
นายจักร์เพชร จิตงามสุจริต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองจันทบุรี เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองจันทบุรีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ถึงปัญหาผลกระทบจากการเลี้ยงนกนางแอ่น ที่มีการขยายตัวเลี้ยงกันมากในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี โดยประชาชนได้รับความเดือดร้อนเรื่องผลกระทบทางเสียงที่มีการเปิดเครื่องเสียงใช้ในการเรียกนกเข้าทำรัง โรคติดต่อที่อาจจะมากับนก ความสกปรกของขี้นกที่ถ่ายเรี่ยราด การต่อเติมอาคารที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย
โดยเรื่องนี้ เทศบาลเมืองจันทบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการจัดระเบียบควบคุมและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการออกเทศบัญญัติควบคุมพื้นที่การเลี้ยงนกนางแอ่น ทั้งนี้ภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี มีข้อมูลผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นทั้งสิ้นประมาณ 30 ราย บ้านที่มีการเลี้ยงนกนางแอ่นจะทำรั้วรอบมิดชิด มีการต่อเติมอาคาร ที่สำคัญมีผู้ประกอบการนอกพื้นที่มาขอเช่าอาคารที่อยู่อาศัย ทำเป็นที่เลี้ยงนก มีการปิดทางเข้าออกมิดชิด เสมือนเป็นตึกร้าง ทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง หากปล่อยให้มีการขยายตัวอย่างไม่ควบคุม เกรงว่าอนาคตภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีจะกลายเป็นเมืองร้าง ทำให้ภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจของเมืองจันทบุรีแหล่งซื้อขายอัญมณีเสียไป
ทางที่ถูกต้องน่าจะอยู่ร่วมกันได้ระหว่างคนกับนก กล่าวคือ ด้านล่างของอาคารพาณิชย์เป็นสถานที่ขายของ ชั้น 2 เป็นที่พักอาศัยของคน และชั้นบนสุดเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่น น่าจะดีกว่า และเกิดประโยชน์จากการใช้สอยอาคารได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามคาดว่า เทศบัญญัติในการควบคุมการเลี้ยงนกนางแอ่น ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี จะผ่านสภาและมีผลบังคับใช้ภายในเดือนธันวาคม 2552 นี้
ด้านผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นรายใหญ่ภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ที่ใช้โรงหนัง โอ โร ร่า ทำเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่น กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย กับการที่เทศบาลจะออกเทศบัญญัติดังกล่าว โดยให้ความเห็นว่า การเลี้ยงนกเป็นอาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่มแก่จันทบุรี เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่คนไทยมีสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ และมองว่าหากไม่อนุญาตให้ทำจะทำให้เศรษฐกิจจันทบุรีซบเซาลงกว่านี้อีก รวมทั้งตึกอาคารก็จะปล่อยร้างไม่มีการลงทุน ส่วนผลกระทบเรื่องโรคติดต่อ เสียง และ มูลนก
และจากประสบการณ์ที่เลี้ยงมากว่า 10 ปี ไม่เห็นว่า นกนางแอ่นจะมีโรคติดต่ออะไร อีกทั้งตนขอยืนยันว่า นกนางแอ่นเป็นสัตว์ปีกที่รักษาความสะอาด เลือกกินเฉพาะแมลงเล็ก ๆ เป็นอาหาร ที่ผ่านมาทางมหาลัย และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เก็บตัวอย่างขี้นกนางแอ่นไปตรวจสอบ ก็ไม่พบโรคติดต่ออะไร ส่วนเรื่องเสียงรบกวนทางเทศบาลมีมาตรการควบคุมที่ผู้ประกอบการทุกรายก็รู้ดี ว่าห้ามใช้เสียงเกินกว่า 70 เดซิเบล
แต่ทั้งนี้ ตนอยากเสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยจังหวัดน่าจะเรียกผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นทุกรายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ไปพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ดีกว่า โดยเฉพาะการเปิดเสียงเรียกนกน่าจะเปิดเป็นเวลา ไม่ใช่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้านรายได้ของการขายรังนกนางแอ่น ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้ราคาตกลงมามาก โดยรังนกราคารวมจะมีขายได้กิโลกรัมละ 3 หมื่นบาท
ขณะที่ประชาชนผู้อาศัยอยู่บริเวณตลาดชัยศิริ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการต่อเติมอาคารที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ในการเลี้ยงนกนางแอ่น กล่าวว่า ผลกระทบของการเลี้ยงนกประชาชนตรงนี้ได้รับโดยตรง ทั้งเรื่องเสียงของเครื่องขยายเสียงที่เป็นเสียงเรียกนกที่มีเสียงแหลมยาว ต่อเนื่อง บางคนปวดศรีษะจากเสียงดังกล่าว มูลของนกที่ถ่ายเรี่ยราดทำให้เกิดความสกปรกต่ออาคารที่พัก
รวมทั้งรถที่จอดในที่โล่ง จะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูแล้ง ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนจึงไม่ค่อยเห็นผลกระทบของขี้นก และอยากถามว่าหากเกิดโรคระบาดที่มีนกนางแอ่นเป็นพาหะ ในอนาคต ใครจะรับผิดชอบ รวมทั้งการต่อเติม ดัดแปลงที่อยู่อาศัย หากไม่ได้มาตรฐาน และมีการพังทลายลงมาจะเกิดความสูญเสียขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้
นายจักร์เพชร จิตงามสุจริต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองจันทบุรี เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองจันทบุรีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ถึงปัญหาผลกระทบจากการเลี้ยงนกนางแอ่น ที่มีการขยายตัวเลี้ยงกันมากในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี โดยประชาชนได้รับความเดือดร้อนเรื่องผลกระทบทางเสียงที่มีการเปิดเครื่องเสียงใช้ในการเรียกนกเข้าทำรัง โรคติดต่อที่อาจจะมากับนก ความสกปรกของขี้นกที่ถ่ายเรี่ยราด การต่อเติมอาคารที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย
โดยเรื่องนี้ เทศบาลเมืองจันทบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการจัดระเบียบควบคุมและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการออกเทศบัญญัติควบคุมพื้นที่การเลี้ยงนกนางแอ่น ทั้งนี้ภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี มีข้อมูลผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นทั้งสิ้นประมาณ 30 ราย บ้านที่มีการเลี้ยงนกนางแอ่นจะทำรั้วรอบมิดชิด มีการต่อเติมอาคาร ที่สำคัญมีผู้ประกอบการนอกพื้นที่มาขอเช่าอาคารที่อยู่อาศัย ทำเป็นที่เลี้ยงนก มีการปิดทางเข้าออกมิดชิด เสมือนเป็นตึกร้าง ทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง หากปล่อยให้มีการขยายตัวอย่างไม่ควบคุม เกรงว่าอนาคตภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีจะกลายเป็นเมืองร้าง ทำให้ภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจของเมืองจันทบุรีแหล่งซื้อขายอัญมณีเสียไป
ทางที่ถูกต้องน่าจะอยู่ร่วมกันได้ระหว่างคนกับนก กล่าวคือ ด้านล่างของอาคารพาณิชย์เป็นสถานที่ขายของ ชั้น 2 เป็นที่พักอาศัยของคน และชั้นบนสุดเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่น น่าจะดีกว่า และเกิดประโยชน์จากการใช้สอยอาคารได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามคาดว่า เทศบัญญัติในการควบคุมการเลี้ยงนกนางแอ่น ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี จะผ่านสภาและมีผลบังคับใช้ภายในเดือนธันวาคม 2552 นี้
ด้านผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นรายใหญ่ภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ที่ใช้โรงหนัง โอ โร ร่า ทำเป็นที่อยู่อาศัยของนกนางแอ่น กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย กับการที่เทศบาลจะออกเทศบัญญัติดังกล่าว โดยให้ความเห็นว่า การเลี้ยงนกเป็นอาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่มแก่จันทบุรี เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่คนไทยมีสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ และมองว่าหากไม่อนุญาตให้ทำจะทำให้เศรษฐกิจจันทบุรีซบเซาลงกว่านี้อีก รวมทั้งตึกอาคารก็จะปล่อยร้างไม่มีการลงทุน ส่วนผลกระทบเรื่องโรคติดต่อ เสียง และ มูลนก
และจากประสบการณ์ที่เลี้ยงมากว่า 10 ปี ไม่เห็นว่า นกนางแอ่นจะมีโรคติดต่ออะไร อีกทั้งตนขอยืนยันว่า นกนางแอ่นเป็นสัตว์ปีกที่รักษาความสะอาด เลือกกินเฉพาะแมลงเล็ก ๆ เป็นอาหาร ที่ผ่านมาทางมหาลัย และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เก็บตัวอย่างขี้นกนางแอ่นไปตรวจสอบ ก็ไม่พบโรคติดต่ออะไร ส่วนเรื่องเสียงรบกวนทางเทศบาลมีมาตรการควบคุมที่ผู้ประกอบการทุกรายก็รู้ดี ว่าห้ามใช้เสียงเกินกว่า 70 เดซิเบล
แต่ทั้งนี้ ตนอยากเสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยจังหวัดน่าจะเรียกผู้ประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นทุกรายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ไปพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ดีกว่า โดยเฉพาะการเปิดเสียงเรียกนกน่าจะเปิดเป็นเวลา ไม่ใช่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้านรายได้ของการขายรังนกนางแอ่น ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้ราคาตกลงมามาก โดยรังนกราคารวมจะมีขายได้กิโลกรัมละ 3 หมื่นบาท
ขณะที่ประชาชนผู้อาศัยอยู่บริเวณตลาดชัยศิริ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการต่อเติมอาคารที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ในการเลี้ยงนกนางแอ่น กล่าวว่า ผลกระทบของการเลี้ยงนกประชาชนตรงนี้ได้รับโดยตรง ทั้งเรื่องเสียงของเครื่องขยายเสียงที่เป็นเสียงเรียกนกที่มีเสียงแหลมยาว ต่อเนื่อง บางคนปวดศรีษะจากเสียงดังกล่าว มูลของนกที่ถ่ายเรี่ยราดทำให้เกิดความสกปรกต่ออาคารที่พัก
รวมทั้งรถที่จอดในที่โล่ง จะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูแล้ง ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนจึงไม่ค่อยเห็นผลกระทบของขี้นก และอยากถามว่าหากเกิดโรคระบาดที่มีนกนางแอ่นเป็นพาหะ ในอนาคต ใครจะรับผิดชอบ รวมทั้งการต่อเติม ดัดแปลงที่อยู่อาศัย หากไม่ได้มาตรฐาน และมีการพังทลายลงมาจะเกิดความสูญเสียขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้